วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ห้องประชุมแซฟไฟร์ 202 อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความเข้าใจการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนในระดับพื้นที่ โดยมีนายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดี พช. ผู้ตรวจราชการกรม และผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับ
โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจกระบวนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนระดับจังหวัดและส่วนกลาง ประกอบด้วยการบรรยายทางวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนฯ การใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อบูรณาการการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนในระดับพื้นที่ เช่น การใช้ข้อมูลในระบบ ThaiQM และการใช้ระบบ TPMAP ให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนทิศทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนฯ ในระดับนโยบาย และมีการเสวนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากกับการแก้ไขปัญหาความยากจน การแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเพื่อพิชิตงานการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนฯ ในระดับพื้นที่ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ จำนวน 193 คน ประกอบด้วยผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน พัฒนาการจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มงาน และผู้รับผิดชอบงานขจัดความยากจนฯ
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 347/2563 ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศจพ. เพื่อเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในคำสั่งดังกล่าว มีอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม และมีกลไกการขับเคลื่อนในระดับต่าง ๆ ทั้งระดับจังหวัด ซึ่งมีพัฒนาการจังหวัดทำหน้าที่เลขานุการ ระดับอำเภอมีพัฒนาการอำเภอเป็นเลขานุการ และระดับตำบลมีพัฒนากรประจำตำบลทำหน้าที่เป็นเลขานุการของทีมปฏิบัติการฯ จากกลไกการขับเคลื่อนงานในระดับต่าง ๆ นับว่ากรมการพัฒนาชุมชนได้รับโอกาสที่ดีจากรัฐบาลที่ได้เล็งเห็นความสามารถของคนกรมการพัฒนาชุมชน ให้เป็นผู้ขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนในระดับพื้นที่ และได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2565 ได้ดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายในระบบ TPMAP จำนวน 653,524 ครัวเรือน ซึ่งเป็นคนจนใน 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านความเป็นอยู่ มิติด้านการศึกษา มิติด้านรายได้ และมิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ ซึ่งในระดับพื้นที่ได้มีการบูรณาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายครบถ้วนแล้ว
“จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจนจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ คนในพื้นที่คือผู้ที่มีความสำคัญเป็นที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ใกล้ชิดประชาชน รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เป็นกลไกสำคัญและบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน เพื่อมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข” อธิบดี พช.กล่าว