กระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์จากมารดาผู้เสียหายกรณี ลูกสาววัย 7 ขวบ ขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี

วันที่ 15 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องจาก “กันจอมพลัง” นำมารดาผู้เสียหาย ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณี ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกบิดาแท้ ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา และล่วงละเมิดทางเพศ ในจังหวัดกระบี่ ขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี และขอให้คุ้มครองพยาน ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) ชั้น 1 อาคารกระทรวงยุติธรรม

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤตฯ กล่าวว่า จากกรณีที่มารดาผู้เสียหาย ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณี ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกบิดาแท้ ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา และล่วงละเมิดทางเพศ หลายครั้ง เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดกระบี่ แต่มารดาของน้องอาศัยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดอุบลราชธานี แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่สามารถรับแจ้งความได้ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นคนละพื้นที่ และต่อมาได้รับแจ้งความไว้ ทำให้คดีล่าช้า และไม่มีความคืบหน้า แถมยังถูกอดีตสามีโทรมาข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ จึงมาขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเร่งรัดติดตามคดีให้โดยเร็วที่สุด และขอให้คุ้มครองพยาน จึงได้โทรประสานงานกับผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดกระบี่ และประสานไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ให้ช่วยสอบปากคำน้องผู้เสียหายก่อน

โดยให้ข้อสังเกตว่าการไม่รับเป็นคดี เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมจะทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ได้ประสานไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานีให้ลงพื้นที่ติดตามคดี เพื่อนำผลตรวจพิสูจน์ส่งผลให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้รวบรวมส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดกระบี่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป

“ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้ง กระทรวงยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว วันนี้จะดูแลในเรื่องของการคุ้มครองพยาน และให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดำเนินการเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ต่อไป” ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤตฯ กล่าว

ด้าน มารดาผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่เข้ามาช่วยเร่งรัดคดีให้ในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ตนจับได้ว่าสามีเคยมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับแม่ของตัวเองแล้วแม่ยังไม่พอ ยังมาทำกับลูกสาวแท้ ๆ อีก จึงยอมไม่ได้ วันนี้รู้สึกดีใจที่มีคนช่วยเหลือตนกับลูกสาว ช่วยเร่งรัดคดีให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด