สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 พ.ย. 65
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ตรัง (92 มม.) จ.พัทลุง (77 มม.) และกรุงเทพมหานคร (68 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 43,815 ล้าน ลบ.ม. (76%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,927 ล้าน ลบ.ม. (75%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
สถานการณ์น้ำ จ.อุบลราชธานี 17 พ.ย. 65 สถานีวัดน้ำ M.7บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,552 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำอยู่ที่ +112.45 ม.รทก สูงกว่าระดับตลิ่ง +0.45 ม.รทก โดยมีแนวโน้มลดลง
สภาพน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่ภาคใต้ 16 พ.ย. 65 -เขื่อนรัชชประภา มีปริมาตรน้ำ 3,746 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 -เขื่อนบางลาง มีปริมาตรน้ำ 928 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 64
กอนช. ถอดบทเรียน “บางระกำโมเดล” สู่ “สี่แควโมเดล” เร่งจัดหาพื้นที่รับน้ำหลากเพื่อหน่วงน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม.
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทรัพยากรน้ำพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง โดยการถอดบทเรียนจาก “บางระกำโมเดล สู่ สี่แควโมเดล” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พร้อมมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพิจารณาพื้นที่เป้าหมาย รองรับน้ำหลากในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี เข้าร่วมประชุม อาทิ กรมประมง กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมอุทยานฯ และ กอ.รมน. ณ รร.ท็อปแลนด์ จ.พิษณุโลก รัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มพื้นที่แก้มลิงรับน้ำให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน-พื้นที่เศรษฐกิจแล้ว ยังเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งได้ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตรได้อย่างมั่นคงมากขึ้น มีเป้าหมายหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน โดยการตัดยอดน้ำอย่างน้อย 1,000 ล้าน ลบ.ม.ภายในปี 2566 ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาได้สูงสุดประมาณ 500 ลบ.ม./วินาที และจะขยายพื้นที่เป้าหมายในการเก็บกักน้ำที่จะดำเนินการเพิ่มเติมภายในปี 2568 รวมประมาณ 3,000 ล้าน ลบ.ม. ช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีและมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้ประโยชน์ที่ดินและสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน