ตามที่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่น คำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้จัดให้มีการประชุมเจ้าหนี้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันร้อยละ 78.59 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียงมีมติยอมรับข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว และต่อมาในชั้นพิจารณาแผนของศาลล้มละลายกลาง ได้มีเจ้าหนี้บางรายยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลางนั้น
ในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยเนื้อหาคำสั่งศาลสรุปได้ ดังนี้
(1) การแก้ไขแผนในส่วนการชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เดิมตามแผนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่เจ้าหนี้กระทรวงการคลัง สถาบันการเงินและเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้นั้น มีการกำหนดการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แต่ละรายในกลุ่มเดียวกันให้ได้รับชำระหนี้อย่างเท่าเทียมกัน โดยได้กำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการไว้ภายใน 31 ธันวาคม 2567 และผู้บริหารแผนต้องมีขั้นตอนดำเนินการโดยต้องศึกษาและกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และพนักงานและนักลงทุนใหม่ให้เหมาะสม ทั้งการกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการดังกล่าวได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ ซึ่งมีธนาคารกรุงเทพฯ ผู้คัดค้านที่ 4 เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเจ้าหนี้มาโดยตลอด
อีกทั้ง ตามกฎหมายแล้ว สิทธิของเจ้าหนี้ในกลุ่มเดียวกันต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และผู้บริหารแผนได้ชี้แจงยืนยันแล้วว่าจะมีมติแปลงหนี้เดิมทุกกลุ่มทุกรายพร้อมกันเพื่อให้ชำระหนี้ให้แก่กลุ่มเดียวกันได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ข้อเสนอขอแก้ไขในส่วนนี้ จึงมีรายละเอียดขั้นตอนและเงื่อนไขครบถ้วน ไม่มีข้อกำหนดใดเป็นการเลือกปฏิบัติ ประกอบกับ เจ้าหนี้ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับธนาคารกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินหลักของประเทศเช่นเดียวกันก็ไม่ได้มีผู้ใดคัดค้าน
นอกจากนี้ เจ้าหนี้ที่มาประชุมและออกเสียงร้อยละ 78.59 เห็นชอบด้วยข้อเสนอขอแก้ไขแผน แสดงว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ รวมถึงเจ้าหนี้ที่ได้รับการชำระหนี้และการแปลงหนี้เป็นทุนยังให้การยอมรับและสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ลูกหนี้มีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นและทำให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้เร็วขึ้น การแปลงหนี้เป็นทุนจึงไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติล้มละลายฯ
(2) การแก้ไขแผนที่เพิ่มเติมข้อกำหนดในการชำระหนี้ให้แก่กลุ่มผู้โดยสารให้ได้รับชำระหนี้ตามมูลค่าบัตรโดยสารที่บันทึกไว้ โดยเริ่มชำระได้ตั้งแต่วันที่ศาลเห็นชอบด้วยแผนที่แก้ไขโดยต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 นั้น อาจเป็นผลให้จำนวนหนี้ที่เจ้าหนี้ผู้โดยสารได้รับชำระหนี้แตกต่างไปจากคำสั่งถึงที่สุดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาล
ซึ่งการแก้ไขวิธีการชำระหนี้ดังกล่าว ไม่ใช่การลดยอดหนี้ แต่เป็นการชำระหนี้ตามมูลค่าบัตรที่ลูกหนี้ได้รับ และเป็นไปตามสิทธิหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายในการทำธุรกิจการค้าปกติและตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสาร ทั้งอาจทำให้ผู้โดยสารรับเงินเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอคำขอรับชำระหนี้ให้มีคำสั่งถึงที่สุด อีกทั้ง ไม่มีเจ้าหนี้รายใดคัดค้านข้อเสนอขอแก้ไขแผนในส่วนนี้
(3) การแก้ไขแผนเพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีข้อพิพาทในต่างประเทศและผู้บริหารแผนจำเป็นต้องเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทกับเจ้าหนี้ดังกล่าวนั้น หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้กลุ่มดังกล่าว อาจทำให้ลูกหนี้ต้องถูกบังคับยึดทรัพย์ในต่างประเทศ รวมถึงเครื่องบินในช่วงเวลาลงจอด ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อรายได้และชื่อเสียง และส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
อีกทั้ง ไม่ปรากฎว่าฝ่ายผู้คัดค้านได้รับผลกระทบอย่างไรต่อการแก้ไขแผนในส่วนนี้ และไม่ได้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างอื่นที่ดีกว่าหรือเสนอแนวทางว่าหากไม่มีการแก้ไขแผนดังกล่าวจะทำให้ผู้บริหารแผนดำเนินการอย่างใดให้ทำการบินในประเทศที่มีข้อพิพาทได้โดยไม่ถูกบังคับคดีและอุปสรรคได้ การแก้ไขแผนในส่วนนี้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น
(4) การแก้ไขแผนเพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการดำเนินธุรกิจของการบินไทย นั้น เจ้าหนี้ผู้ให้บริการสนามบิน ผู้ให้บริการภาคพื้นและผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจที่ระบุรายชื่อและรายละเอียดเงินที่ค้างชำระไว้ ถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจการค้าตามปกติของลูกหนี้ หากไม่แก้ไขแผน ย่อมทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถดำเนินการค้าตามปกติต่อไปได้ และไม่อาจถือว่าเป็นการทำให้เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้เสียเปรียบ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการหารายได้มาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย จึงมีความจำเป็นและไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติล้มละลายฯ
อย่างไรก็ดี ข้อกำหนดที่ให้ลูกหนี้เสนอรายชื่อเจ้าหนี้ จำนวนหนี้ และความจำเป็นต่อคณะกรรมการเจ้าหนี้เพิ่มเติมจากที่ระบุไว้ในข้อเสนอขอแก้ไขแผนเพื่อพิจารณาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เพิ่มเติมดังกล่าว มีผลให้การชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่ไม่ระบุรายละเอียดดังกล่าวไม่ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมเจ้าหนี้และศาล จึงให้ตัดออก โดยข้อกำหนดส่วนนี้ไม่ใช่ข้อสำคัญ แผนส่วนอื่น ๆ ยังบังคับได้
(5) ข้อเสนอขอแก้ไขแผนส่วนแผนปฏิรูปธุรกิจ คณะกรรมการกำกับสินเชื่อใหม่และข้อกำหนดรองรับความเสี่ยงให้เจ้าหนี้ที่ถูกบังคับแปลงหนี้เป็นทุน รวมถึงกำหนดเงื่อนไขอันเป็นผลสำเร็จของแผน ไม่ใช่รายการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การยกเลิกส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลสินเชื่อใหม่ ก็เนื่องจากเป็นการลดขั้นตอนการดำเนินงานเพราะมีคณะกรรมการเจ้าหนี้กำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแผนอยู่แล้ว จึงไม่ทำให้ข้อเสนอขอแก้ไขแผนไม่ชอบ
ส่วนแผนปฏิรูปธุรกิจนั้น ในส่วนอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารแผนได้กำหนดให้ผู้บริหารแผนจัดการบริหารกิจการทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เป็นไปตามแผนซึ่งรวมถึงแผนธุรกิจแล้ว นอกจากนี้ในส่วนข้อกำหนดรองรับความเสี่ยงให้แก่เจ้าหนี้ถูกบังคับแปลงหนี้เป็นทุนและข้อกำหนดเงื่อนไขที่เป็นผลสำเร็จของแผน ที่ธนาคารกรุงเทพฯ ผู้คัดค้านที่ 4 กังวลว่าจะต้องกำหนดให้ลูกหนี้มีสินเชื่อเพียงพอ ให้เป็นเงื่อนไขของผลสำเร็จของแผนนั้น เท่ากับว่าเป็นการผูกมัดให้ผู้บริหารแผนต้องจัดหาสินเชื่อในจำนวนที่สูงมากเสียก่อน จึงจะสามารถชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุนและออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการได้
ซึ่งการหาสินเชื่อเป็นจำนวนสูงมากในขณะที่กิจการของลูกหนี้อยู่ในภาวะมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือข้อต่อรองขององค์กรหรือสถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้ การสร้างเงื่อนไขดังกล่าวจึงอาจเป็นการสร้างภาระให้แก่ลูกหนี้ให้ต้องก่อหนี้และมีหน้าที่ต้องชำระเป็นจำนวนมากต่อไปในอนาคต การที่แผนมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการก่อหนี้ใหม่ไว้ให้มีความชัดเจนก็เพียงพอแล้ว แต่ไม่มีความจำเป็นต้องถึงขนาดนำมากำหนดเป็นเงื่อนไขผลสำเร็จของแผน ข้อเสนอขอแก้ไข จึงมีรายการครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว
คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนมีความมั่นใจว่าการฟื้นฟูกิจการตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับที่ศาลเห็นชอบในวันนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าหนี้ทุกราย และขอให้เจ้าหนี้ ลูกค้า และคู่ค้าของการบินไทยเชื่อมั่นว่าการบินไทยจะกลับมาดำเนินธุรกิจและให้บริการอย่างเต็มที่เพื่อให้สมกับการเป็นสายการบินแห่งชาติที่แข็งแกร่งให้คนในชาติภาคภูมิใจ สร้างกำไรและการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้