สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มอบรางวัลยกย่องบุคคลและองค์กรที่มีการนำแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้งานดีเด่น เพื่อเป็นแบบอย่างในการแปลงแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประยุกต์ใช้งานแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ กิจกรรมส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้งานแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ พร้อมกล่าวปาฐกถาแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ณ โรงแรมเบสต์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ ถนนแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ว่า
รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มอบรางวัลในวันนี้สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ได้รับทราบและเห็นชอบแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอ โดยให้กระทรวงฯ เร่งสร้างความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ ทั้งในประเด็นแนวคิด นิยาม และแนวทางในการแปลงแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
กระทรวงฯ จึงได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงาน ตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดำเนินโครงการสร้างความตระหนักรู้ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบมีจริยธรรมเพื่อรองรับการขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Understanding Artificial Intelligence ethics in The new S-curve industries) โดย สดช. ได้มีการจัดทำระเบียบ มาตรการ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเป็นการวางรากฐานในการพัฒนาและนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไปใช้งานให้เกิดความเชื่อมั่น มีความน่าเชื่อถือ มั่นคง ปลอดภัย และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ซึ่งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570) ที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาในประเทศไทย เกิดความตระหนักและมียุทธศาสตร์ในการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบรับกับการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบบูรณาการ
“การจะนำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาควบคู่กัน คือ การกำหนดยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ขององค์กรที่ชัดเจน การพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง ออกแบบกระบวนการควบคุมและกำกับการทำงานที่ชัดเจน มีข้อมูลขนาดใหญ่และเนื้อหาครบถ้วน มีเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มพร้อมที่จะรองรับการทำงาน และดำเนินการตามแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์
ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้เกิดการกำกับดูแลอย่างเป็นธรรม (Governance) ลดความเอนเอียง (Bias) ในการประยุกต์ใช้และการฝึกฝนตามกรอบแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ และส่งเสริมให้ปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในหน่วยงาน เพื่อเป็นต้นแบบองค์กรที่มีปณิธาน แสดงถึงความรับผิดชอบกับผู้ใช้งานปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรม” นายชัยวุฒิฯ กล่าว
ด้าน นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสร้างความตระหนักรู้ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมเข้าสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศ รวมถึงจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ (Online Course) สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ และพัฒนาทักษะในการใช้เครื่องมือ (Tools) ในการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพระบบปัญญาประดิษฐ์ ให้สอดคล้องตามแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ และเพื่อเกิดเครือข่ายการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรมในประเทศ ซึ่งมีผลการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่
1) จัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ พัฒนาสื่อและคู่มือสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ ในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์
2) พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพระบบปัญญาประดิษฐ์ให้มีการดำเนินการประมวลผลและการทำงาน ตลอดจนให้บริการอย่างมีจริยธรรมตามแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์
3) ฝึกอบรมหลักสูตรการเรียนรู้และการใช้เครื่องมือที่พัฒนาขึ้น ให้แก่บุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป โดยได้ดำเนินการฝึกอบรมในภาคทฤษฎีผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 4,112 คน และอบรมในภาคปฏิบัติ (Workshop) ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน 1,229 คน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565
4) จัดทำร่างแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ เพื่อขยายผลในระยะต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรมในประเทศ และเพื่อเป็นแบบอย่างในการแปลงแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมได้
สำหรับผู้ได้รับรางวัลยกย่องบุคคลและองค์กรที่มีการนำแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้งาน ครอบคลุมบทบาทในแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ทั้ง 3 บทบาท โดยการพิจารณาตัดสินจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จำนวน 15 รางวัล เงินรางวัลรวมกว่า 2 แสนบาท พร้อมโล่รางวัล และใบประกาศนียบัตร ประกอบด้วย
ระดับบุคคล จำนวน 12 รางวัล
1. บทบาทผู้รักษากฎ นโยบาย และบริหารจัดการกฎระเบียบ (Regulator) จำนวน 4 รางวัล
– รางวัลชนะเลิศ : คุณสมบัติ สิริพัฒนากุล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 : คุณลดาวัลย์ ไพศาลวรภัทร CEO บริษัท แพลนเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 : คุณธนนท์ มาเจริญ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรังสิต
– รางวัลชมเชย : คุณณัฐวุฒิ ชูชื่น กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
2. บทบาทนักวิจัย นักพัฒนา (Developer) จำนวน 4 รางวัล
– รางวัลชนะเลิศ : คุณธเนศ สิงห์ลอ ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 : คุณวสันต์ ณ ชัย กลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ ทีมวิจัยเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติและความหมาย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 : คุณอภิสิทธิ์ เบนอารีย์ ส่วนงานโครงข่ายโทรศัพท์ประจำที่ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
– รางวัลชมเชย : คุณสรรเพชญ พูลสุขโข กองเทคนิคและเครือข่าย สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ การยาสูบแห่งประเทศไทย
3. บทบาทผู้ใช้งานหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากระบบปัญญาประดิษฐ์ (User) จำนวน 4 รางวัล
– รางวัลชนะเลิศ : คุณมินตรา ทองตัน สาขาการจัดการสารสนเทศทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 : คุณขวัญฤทัย แซ่ลิ่ม สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 : คุณธนากร เวสารัชช์ ธนาคารออมสิน สาขาลำไทร อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
– รางวัลชมเชย : คุณพลอยชมพู นวนเปี้ย สาขาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
รางวัลระดับองค์กร จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย โล่รางวัล พร้อมใบประกาศนียบัตร
– รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ หน่วยวิจัยวิทยาการสื่อสารของมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ส่วนงานโทรศัพท์ประจำที่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)