วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. กรมบังคับคดีและ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด ร่วมลงนามบันทึก ความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลายโดยมีนางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี นายสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด เป็นผู้ลงนาม ซึ่งมีนางสาวยุพาภรณ์ ศิริกิจพาณิชย์กูล รองอธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมบังคับคดี และคณะผู้บริหารบริษัท อีวี มี พลัส จำกัด เข้าร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ณ ห้องประชุมคชสาร ๒ ชั้น ๓ อาคารกรมบังคับคดี
นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เผยว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้เป็นการพัฒนา การทำงานร่วมกันระหว่างกรมบังคับคดีกับบริษัท อีวี มี พลัส จำกัด ในการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้รวดเร็วและสมบูรณ์ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ในการรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ลดการใช้เอกสาร อันเป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างหน่วยงาน
การลงนามในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกรมบังคับคดี ในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ของลูกหนี้ (Debtor Data Center) โดยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานคดีล้มละลาย ส่งผลให้มีกระบวนการบังคับคดีรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลาย เป็นการอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลในคดี ด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้ตามกฎหมายและมีการโฆษณาประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อดำเนินการบังคับคดีล้มละลาย ให้เป็นไปตามขั้นตอนและระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนดไว้
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิด Good Communication and Collaboration หรือการสื่อสารเชิงรุก สร้างความรับรู้ และบูรณาการการทำงานร่วมกัน รวมทั้ง Good service ยกระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนโดยการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e – Service เพื่อไปสู่ Great Digital Organization หรือการพัฒนาสู่ความเป็นองค์กรดิจิทัล โดยมุ่งเน้นพัฒนาองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูง ทันสมัยเปิดกว้างและเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแนวนโยบาย “Change Better To Be LED 5G” ของกรมบังคับคดี ในการนำเรื่องที่ดำเนินการอยู่แล้วมาปรับใช้ให้ดีขึ้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือเช่นนี้จะส่งผลให้กรมบังคับคดีสามารถยกระดับศักยภาพในการบังคับคดีและการให้บริการ อย่างเหมาะสม สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
กรมบังคับคดี โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๒๘๘๑ ๔๙๙๙ หรือ สายด่วนกรมบังคับคดี ๑๑๑๑ กด ๗๙ เว็บไซต์ www.led.go.th