วันที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมเพื่อสรุปผลและถอดบทเรียน (After Action Review: AAR) การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2565 โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมคณะผู้บริหาร ทส. ผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 17 อาคารกระทรวงฯ และผ่านระบบ Video Conference
นายวราวุธ ขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและขอให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในปี 2566 ทั้งการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ และการเปิดโอกาสให้กลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วม ควบคู่กับการดำเนินงานตามมาตรการต่าง ๆ ก่อนเกิดสถานการณ์ เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ เนื่องจากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีจำนวนจุดความร้อน (Hot spot) ลดต่ำลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี ดังนั้น ในปี 2566 จึงขอให้ทุกจังหวัดดูแลการบริหารจัดการปริมาณเชื้อเพลิงที่คาดว่าจะมีการสะสมอยู่เป็นจำนวนมากให้ดี พร้อมกำชับทุกจังหวัดปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้พื้นที่ คทช. อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการเผาไหม้ จะดำเนินการขอพื้นที่คืนโดยทันที อีกทั้งขอให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เร่งพัฒนาระบบการคาดคะเนการเคลื่อนที่หรือการลุกลามของไฟ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากกับเจ้าหน้าที่หรือผู้เข้าระงับเหตุในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบ 7 แนวทางการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2566 เพื่อจัดทำเป็นแผนเฉพาะกิจฯ นำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ประกอบด้วย
1) ยกระดับมาตรการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติฯ และแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2) กำกับดูแลการดำเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด
3) สื่อสารข้อมูลที่เป็นเอกภาพให้แก่ประชาชน
4) ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในพื้นที่ป่า โดยประยุกต์ใช้ระบบพยากรณ์ความรุนแรงและอันตรายของไฟ
5) เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการ โดยเฉพาะหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนในพื้นที่
6) ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงครบวงจร
7) ผลักดันกลไกระหว่างประเทศ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด