ในวันที่ 2 กันยายน 2565 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการร่วมศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ประจำปี 2565 ภายใต้หัวข้อ “การฝึกการต่อต้านการก่อการร้ายทางทะเล และการปราบปรามการลักลอบขนอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD)/สินค้าทางทะเลที่ผิดกฎหมายหรือสินค้าต้องห้ามตามพันธกรณีระหว่างประเทศ” ซึ่งจัดโดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เพื่อทดสอบขีดความสามารถการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับกำลังทางเรือของหน่วยงานหลักใน ศรชล. และหน่วยงานภายนอก ให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการและทันต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางทะเลที่อาจจะเกิดขึ้น
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เดินทางเข้าร่วมชมการฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ ปส. ร่วมฝึกซ้อมปฏิบัติการภายใต้หัวข้อ “การฝึกต่อต้านการก่อการร้ายทางทะเล และการฝึกป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง” ณ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ท่าเรือจุกเสม็ด จังหวัดชลบุรี
โดยการฝึกปฏิบัติการในครั้งนี้ประกอบไปด้วยหน่วยปฏิบัติการหลักของ ศรชล. ได้แก่ กองทัพเรือ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งหน่วยสนับสนุนอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และ ปส. ในการสนับสนุนด้านเทคนิคกรณีฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี
นายเพิ่มสุข กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยต้องมีความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยจากการก่อการร้าย และภัยคุกคามที่่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพร้อมในการตอบสนองต่อการก่อการร้ายทางนิวเคลียร์และรังสี ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล ซึ่ง ปส. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์และรังสี และหน่วยงานสนับสนุนทางเทคนิคกรณีฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี จึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างองค์ความรู้และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมระหว่างหน่วยงาน ในการเตรียมความพร้อมด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ และการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามและการก่อการร้ายทางทะเลทางนิวเคลียร์และรังสี เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการและตอบสนองได้ทันต่อสถานการณ์ และเกิดความมั่นคงในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ