สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 ส.ค. 65 เวลา 7.00 น.

+ ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้

+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.ตาก (83) จ.พัทลุง (73) และ จ.ระยอง (31)

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 51,614 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,040 ล้าน ลบ.ม. (63%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วลม ป่าสักฯ อุบลรัตน์ น้ำพุง บางพระ และบึงบระเพ็ด

 + เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำวังล้นตลิ่ง ตามที่เขื่อนกิ่วลมปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 201 – 250 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งสองฝังแม่น้ำวัง ในพื้นที่ จ.ลำปาง และตาก

 เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำชีล้นตลิ่ง ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 26 – 31 ส.ค. 65

 เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำมูลล้นตลิ่ง ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ อ.ราษีไศล ยางชุมน้อย อุทุมพรพิสัย เมืองศรีสะเกษ และกันทรารมย์

 เขื่อนเเควน้อยบำรุงแดน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ จาก 200ลบ.ม./วินาที เป็น 220 ลบ.ม./วินาที อาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำแควน้อย

+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่ง กอนช. วางแผนเร่งระบายน้ำเหนือออกสู่ทะเล เตรียมรองรับฝนรอบใหม่ ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มทรงตัวและลดลง กรมชลประทานได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากคาดการณ์ว่าในช่วงเดือน ก.ย. 65 ร่องมรสุมที่จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและทำให้เกิดน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับน้ำหลาก จึงขอให้กรมชลประทานพิจารณาพร่องน้ำบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำหลากและหน่วงชะลอน้ำ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำโดยเร็วที่สุด พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการเตรียมความพร้อมในการรับมืออุทกภัย ทั้งการกำหนดพื้นที่เฝ้าระวัง กำหนดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมปฏิบัติงานตลอด24 ชั่วโมง รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทันที

และในกรณีที่จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ ให้กรมชลประทานดำเนินการแจ้งเตือนจังหวัดในพื้นที่ท้ายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูล แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ขณะเดียวกันกรมชลประทานยังเร่งดำเนินการพร่องน้ำในคลองชลประทานต่าง ๆในเขตพื้นที่ชลประทาน ให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วเสร็จเพื่อเตรียมการหากจำเป็นต้องใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นทุ่งรับน้ำหลากในช่วงตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. นี้