สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22ส.ค. 65 เวลา 7.00 น.

+ ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน (150) จ.พังงา (142) และ จ.จันทบุรี (81)

+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 50,388 ล้าน ลบ.ม. (61%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 43,927 ล้าน ลบ.ม. (61%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม ป่าสักฯ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล บางพระ และบึงบระเพ็ด

+ กอนช. ประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 22 – 25 สิงหาคม 2565

คาดการณ์สถานการณ์น้ำในลำน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 0.50-1.00 เมตร จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณ ลุ่มน้ำป่าสัก เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสัก บริเวณ อ.หล่มเก่าและหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ คาดการณ์ระดับน้ำจะสูงกว่าตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำป่าสักประมาณ 0.60 เมตร

ลุ่มน้ำชี เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำชี บริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี และเขื่องใน จ.อุบลราชธานี ลำน้ำยัง บริเวณ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ลำปะทาว บริเวณ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ

ลุ่มน้ำมูล เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำมูล บริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี พิบูลมังสาหาร วารินชำราบ และสว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ลำเซบก บริเวณ อ.ม่วงสามสิบ ดอนมดแดง และตาลสุม จ.อุบลราชธานี ลำโดมใหญ่ บริเวณ อ.น้ำยืน นาจะหลวย บุณฑริก เดชอุดม นาเยีย และพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

+ การประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติให้ กฟผ. เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์จากเดิมวันละ15 ล้าน ลบ.ม./วัน ปรับเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได วันละ3 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จนถึงอัตราการระบายไม่เกิน 25 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน (โดยยังไม่มีผลกระทบด้านท้ายน้ำ) ดังนี้

• วันที่ 22-23 สิงหาคม 2565 ระบายวันละ 15 ล้านลบ.ม.ต่อวัน

• วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ระบายวันละ 18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

• วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ระบายวันละ 21 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

และให้ปรับการระบายน้ำตามปริมาณน้ำไหลเข้าในอัตราไม่เกิน25 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน

ทั้งนี้ ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ด้านท้ายเขื่อน ให้รับทราบและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด