นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า มีร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภากตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกอบกับเขื่อนป่าสักซลสิทธิ์ประกาศเพิ่มการระบายน้ำโดยทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับจากอัตรา ๑๖๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป จนถึงอัตรา ๒๘๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ ๐.๙๐ – ๒.๐๐ เมตร รวมปริมาณจากคลองชัยนาท – ป่าสัก และ ลำน้ำสาขาของท้ายเขื่อนป่าสัก มีแนวโน้มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนพระราม ๖ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีปริมาณไหลผ่านเขื่อนพระราม ๖ อย่างเหมาะสม จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนพระราม ๖ ในอัตรา ๔๒๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (วันละ ๓๖ ส้านลูกบาศก์เมตร) ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปาสักท้ายเขื่อนพระราม ๖ สูงขึ้นจากปัจจุบัน (วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.) อีกประมาณ ๐.๓๐ -๐.๕๐ เมตร
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำและเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราซการ ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบข่าวสารและติดตามสถานการณ์น้ำ สถานการณ์ฝน จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ จะรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป
