วันที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการบูรณาการความร่วมมือด้านอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายวิชาการ และ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน ฝ่ายก่อสร้าง เป็นสักขีพยาน ณ กรมชลประทาน ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยนั้นมีปริมาณฝนเฉลี่ยในแต่ละปีค่อนข้างมาก เนื่องจากภูมิประเทศตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมและการเกิดพายุหมุนเขตร้อน ตลอดจนสภาพทางอุทกวิทยามีความผันแปรสูงส่งผลให้ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงนํ้าหลาก และเกิดปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูแล้งอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ การชลประทานจึงเปรียบเสมือนฟันเฟืองหลักที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชนทุกภาคส่วน
ในฐานะหน่วยงานตั้งต้นที่ให้บริการข้อมูลด้านการพยากรณ์อากาศ ปริมาณน้ำฝน รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่กรมชลประทานสามารถนำไปใช้เพื่อการวางแผนบริหารจัดการน้ำ จะเห็นได้ว่าจากภารกิจที่มีความเกี่ยวโยงกันทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน ได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ดังนั้น การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ จึงถือว่าเป็นการยกระดับการบูรณาการด้านอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยที่บันทึกความเข้าใจนี้จะเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติงานของทั้งสองฝ่าย โดยมีสาระสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1. ด้านการแบ่งปันข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจวัดด้านอุตุนิยมวิทยา และอุทกวิทยาที่เกี่ยวข้อง
2. ด้านการศึกษาและการวิจัย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรม
3. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร
4. ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทางด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบของคณะทำงาน ทั้งการจัดทำแผนงานและโครงการในอนาคต รวมทั้งการดำเนินงานตามกรอบภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนสืบไป
กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
10 สิงหาคม 2565