สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 ก.ค. 65

+ ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จ.แพร่ (118 มม.) จ.กาญจนบุรี (90 มม.) และ จ.ตราด (84 มม.)
+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่วนแม่น้ำโขง มีแนวเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 44,011 ล้าน ลบ.ม. (54%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,29 8 ล้าน ลบ.ม. (54%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (2 แห่ง)
+ พื้นที่แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก – ดินถล่ม บริเวณ จ.เชียงใหม่ น่าน ตาก พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และตรัง

กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำหลังประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ฉบับที่ 20/2565 เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ดังนี้

จ.ขอนแก่น เกิดฝนตกหนักที่ อ.ชุมแพ ทำให้บริเวณถนนมะลิวัลย์ ช่วงหน้าโรงแรมชีวิน ถึง แยกชุมแพก่อสร้าง น้ำระบายไม่ทันท่วมผิวจราจร สูงประมาณ 40 ซม. การดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ ปภ.เทศบาลเมืองชุมแพ ได้ อำนวยความสะดวกการจราจรสูบน้ำระบายเข้าหนองอีเลิง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

จ.เพชรบูรณ์ สถานการณ์น้ำแม่น้ำป่าสัก อ.หล่มสัก บริเวณสถานี S.3 เมื่อเวลา 06.00 น. ระดับน้ำอยู่ที่ 8.11 ม. (ร.ส.ม.) ยังต่ำกว่าตลิ่ง 0.2 ม. (ระดับตลิ่ง 8.30 ม.) ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าตลิ่งในวันนี้ ขณะนี้เทศบาลเมืองหล่มสักได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ วางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำตามจุดต่าง ๆ และคอยสังเกตสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ