กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ สมาคมฮินดูสมาช และ สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การดำเนินงานด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ ภายใต้หลักการมีส่วนร่วม “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 5-01 ชั้น 5 อาคารกระทรวงยุติธรรม ดร.โฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การดำเนินงานด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน พร้อมกัน 2 องค์กรทางศาสนา ได้แก่ สมาคมฮินดูสมาช (ฮินดู-พราหมณ์) และสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย
โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายกุลชันกุมาร มันจันดา นายกสมาคมฮินดูสมาช นายปินเดอร์ปาลซิงห์ มาดาน นายกสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ฯ ดังกล่าว
พร้อมด้วย นายนาริน นารูลา รองนายกสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย นายมานิต สัจจมิตร ที่ปรึกษาสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย นาย Jaspreet Sing ผู้จัดการ สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย นายนิกร ซัจเดว กรรมการบริหาร สมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย และประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน แขวงคลองตัน เขตคลองตัน พร้อมด้วย นายณัฐพล ด่านจิตร์ตรง ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ และผู้บริหารกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมเป็นเกียรติ ในการจัดพิธีลงนามในครั้งนี้
สำหรับการจัดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ในครั้งนี้มีกรอบความร่วมมือที่สำคัญ ระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กับ สมาคมฮินดูสมาช (ฮินดู-พราหมณ์) และสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทยกล่าวคือ
สนับสนุน ส่งเสริม และจัดการศึกษาเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ผ่านหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษา และความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนของสมาคมฮินดูสมาช เพื่อให้สมาชิก คณะพราหมณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการของสมาคม และผู้นำศาสนา มีความรู้คู่คุณธรรม สามารถเผยแผ่ศาสนาได้อย่างถูกต้อง โดยการประยุกต์ใช้หลักคำสอนจากพระเวทและคัมภีร์รามายณะ ซึ่งสอนให้เข้าใจในหน้าที่ของตนเองต่อบุคคลอื่น เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนศาสนาให้มั่นคง นำไปสู่ความยั่งยืน
รวมทั้งสนับสนุน ส่งเสริมการจัดการศึกษาเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ผ่านหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษา ตามคำสั่งสอนจากพระมหาคัมภีร์ คุรุครันถ์ ซาฮิบ พระศาสดานิรันดร์แห่งศาสนาซิกข์ ว่าด้วยคุณธรรมคู่สัจธรรม เพื่อให้สมาชิกคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำทางศาสนา มีความรู้คู่คุณธรรม
รวมทั้ง พัฒนาบุคลากรของหน่วยงานให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และหลักคริสตธรรม โดยบูรณาการหลักคุณธรรมในการขับเคลื่อนกิจการศาสนาสู่ความมั่นคง สังคมดำรงศีลธรรม นำสันติสุขอย่างยั่งยืน
ดร.โฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และ สมาคมฮินดูสมาช (ฮินดู-พราหมณ์) และสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทยได้ริเริ่มบูรณาการความร่วมมือดำเนินงานด้านการสร้างการรับรู้กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแก่เครือข่าย สมาชิก ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำทางศาสนา คณะกรรมการบริหาร รวมทั้งการสร้างความตระหนักและรับรู้เดี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน และการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงและสังคมดำรงศีลธรรม เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ในสังคมและประเทศชาติ ต่อไป
นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มีภารกิจสำคัญ คือ งานขับเคลื่อนแผนสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย แผนปฎิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน งานส่งเสริมการปฎิบัติงานตามกฎหมาย จำนวน 3 ฉบับ คือ การเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา การคุ้มครองพยานในคดีอาญา การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การผลักดันร่างกฎหมายที่สำคัญเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ พี่น้องประชาชน รวมถึงการปฎิบัติตามพันธกรณีว่าด้วยสิทธิมนุษยชน จำนวน 5 ฉบับ ที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมตามหลักขององค์การสหประชาชาติ
ซึ่งการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ฯ ในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้ประสานความร่วมมือ สนับสนุนส่งเสริมและจัดการศึกษาเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนศึกษา และความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน ผ่านหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษา ด้วยการนำหลักคำสอนของแต่ละศาสนา นำมาเผยแผ่ พร้อมขับเคลื่อนงานด้านส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนได้อย่างถูกต้องด้วยหลักคุณธรรมอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการ “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯรัชการที่ 9 ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับวิถีชีวิตด้วยการบ่งเพาะคุณธรรมให้แก่คนในสังคม ชุมชน ท้องถิ่นและทุกภาคส่วนของสังคมที่ยั่งยืน ต่อไป