การลงนามดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตมันสำปะหลังของสหกรณ์ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเอ็มโอยู( MOU )ซื้อ – ขาย ผลผลิตการเกษตร ระหว่างสหกรณ์กับผู้ประกอบการ มันสำปะหลัง ในรูปแบบพันธสัญญา ภายใต้กลไกตลาดนำการผลิตของ”กำแพงเพชรโมเดล” ตามโครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนที่มี ระยะเวลาขับเคลื่อนโครงการ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2564/65 ถึงปี 2566/67 เริ่มปรากฎเห็นเป็นรูปธรรม
หลังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสหกรณ์นิคมนครชุม จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร จัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือค่าขนส่งแก่เกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกมันสำปะหลัง ตามโครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปีการผลิต 2564 / 65 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา จำนวน 311 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 588,127 บาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร ในการร่วมทำธุรกิจกับสหกรณ์ อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรด้านการลดต้นทุนในการขนส่งผลผลิตการเกษตรอีกด้วย
“เป็นปีแรกที่สหกรณ์ได้ช่วยเหลือค่าขนส่งแก่สมาชิกผู้ปลูกมันสำปะหลังตันละ 10 บาท พอดีทางธกส.มีโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ในโครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนของรัฐบาล ทางสหกรณ์ก็เลยกู้มาเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับสมาชิกเพื่อช่วยเหลือเขาในภาวะวิกฤติ”
นางสมควร ชมเชย ผู้จัดการสหกรณ์นิคมนครชุม จำกัด เจ้าของรางวัลสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติประเภทสหกรณ์นิคม 5 ปีซ้อน (ปี2541-44 และ2564) กล่าวถึงการช่วยเหลือค่าขนส่งแก่เกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกมันสำปะหลัง ภายใต้โครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนในฤดูกาลผลิตปี 2564/65 ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับสถาบันเกษตรกรในการช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิก โดยความร่วมมือ 3 ฝ่าย ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเอ็มโอยู( MOU )ซื้อ – ขาย ผลผลิตการเกษตร ประกอบด้วย สหกรณ์นิคมนครชุม จำกัด สำนักงานธกส.จังหวัดกำแพงเพชรและหจก.เค พี กรุ๊ป ซึ่งสหกรณ์ฯจะเป็นผู้รวบรวมผลผลิตจากสมาชิกส่งให้กับ หจก.เค พี กรุ๊ป โดยการสนับสนุนแหลง่ทุนจากธกส.
อย่างไรก็ตามการรวบรวมผลผลิตมันสำปะหลังของสหกรณ์นิคมนครชุม จำกัดในฤดูกาลการผลิตปี 2564/65 นี้ สหกรณ์ฯสามารถรวบรวมผลผลิตมันสำปะหลังจากสมาชิกและเกษตรกร 469 ราย จำนวน 37,725 ตัน มูลค่า 159 ล้านบาท โดยใช้เงินทุนของสหกรณ์เอง และเงินทุนจากภาครัฐ ตามโครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปีการผลิต 2564 / 65 และมีสมาชิกที่ได้รับการช่วยเหลือค่าขนส่งจำนวน 311 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 588,127 บาท จากผลผลิตจำนวน 30,614 ตัน มูลค่า 70 ล้านบาท
“นอกจากสมาชิกจะได้เงินปันผลตามปกติแล้ว ปีนี้เป็นปีแรกที่เราเพิ่มให้อีกตันละ 10 บาทเป็นค่าขนส่ง เฉพาะสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯ เพราะปกติทุกปีที่ผ่านมาเงินส่วนนี้เกษตรกรจะเป็นผู้ออกเอง”นางสมควรเผย พร้อมระบุว่าเป็นเงินที่สหกรณ์ฯกู้มาจากธกส. เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และเป็นครั้งแรกที่จ่าย เพราะปกติจะจ่ายคืนเงินปันผลตอนปิดบัญชีเท่านั้น
ปัจจุบันสหกรณ์นิคมฯมีสมาชิกกว่า 1,400 คน ที่ยึดอาชีพปลูกมันสำปะหลังจำนวนทั้งสิ้น 60,000 ไร่ แต่ละปีเกษตรกรสมาชิก ได้ผลผลิตมันสำปะหลังรวมแล้วไม่น้อยกว่า 100,000-200,000 ตัน ซึ่งส่วนหนึ่งสหกรณ์นิคมรับซื้อที่ประมาณ 40,000 กว่าตัน แล้วแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาด พร้อมสร้างเครือข่ายกับสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์ในจังหวัดต่าง ๆ ได้นำไปเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ และส่วนหนึ่งก็ส่งขายให้กับบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจกลุ่มอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตมันสำปะหลัง สามารถจำหน่ายได้ในราคาดี ส่วนมันสำปะหลังที่ไม่ได้แปรรูปเป็นมันเส้น ทางสหกรณ์จะรวบรวมส่งขายให้กับลานมันของเอกชน
“ตอนนี้ไม่มีแล้วมันสำปะหลังเก็บเกี่ยวหมดแล้ว เพราะเข้าสู่ฤดูฝน มันสำปะหลังปลูกปีละครั้งเริ่มช่วงฤดูฝน บางรายก็ปลูกได้ตลอดทั้งปี เพราะเขามีแหล่งน้ำ รายไหนไม่มีก็จะรอฤดูฝนอย่างเดียว ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมขังปลูกมันไม่ได้ เราก็ส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกพริกแทน ”นางสมควร กล่าว
ขณะที่ นางสำราญ สุขขวัญ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์นิคมนครชุม จำกัด ที่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าขนส่งครั้งนี้ กล่าวด้วยความดีใจ หลังได้รับเงินช่วยเหลือค่าขนส่งจำนวน 2,700 บาท จากพื้นที่ปลูกทั้งหมด 50 ไร่ โดยให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 8-10 ตัน หากปีไหนฝนฟ้าดี ไม่มีโรคระบาดก็จะได้ผลผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างปีนี้พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังมีปัญหาประมาณ 10 ไร่ เนื่องจากถูกน้ำท่วมและเจอโรคใบด่างระบาด ซึ่งก็ได้แจ้งไปทางเกษตรก็ได้ค่าชดเชย ไร่ละ1,900 บาท ได้เงินมาทั้งหมด 19,000 บาท หลังพื้นที่ปลูก โดนน้ำท่วมหัวเน่าใช้การไม่ได้ ส่วนโรคใบด่างระบาดก็จะถอนทำลายทิ้ง
“ ราคามันปีนี้ถือว่าดีนะ ได้ตันละสองพันสองสองพันสาม บวกกับที่สหกรณ์ให้เพิ่มอีกตันละสามร้อย ถึงปุ๋ยจะแพง แต่ขายได้ราคานี้ก็อยู่ได้นะ” เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังคนเดิมกล่าวย้ำ
ด้านนางสาวไพรินทร์ สุขเล็ก สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวถึงการมอบเงินช่วยเหลือค่าขนส่งแก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังครั้งนี้ว่าเป็นคืนกำไรให้กับสมาชิกสหกรณ์ ตามโครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปีการผลิต 2564 / 65 ซึ่งเป็นการนำร่องเป็นปีแรกที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสหกรณ์นิคมนครชุม จำกัด และภาคีเครือข่ายที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมกัน(MOU) ในรูปแบบพันธสัญญา ภายใต้กลไกตลาดนำการผลิตของกำแพงเพชรโมเดล เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งโครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปอีก 3 ปี โดยไปสิ้นสุดในฤดูกาลผลิต ปี 2566/67
“ ในส่วนของเราสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร จะดูแลในเรื่องกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ส่วนตัวสหกรณ์เป็นนิติบุคคล ที่ดูแลสมาชิกและเป็นเจ้าของสหกรณ์ เราเป็น แค่พี่เลี้ยง โดยอำนาจการตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ สหกรณ์ไหนคำนวณต้นทุนแล้วพอมีกำไร ก็อาจคืนกำไรให้กับสมาชิกได้ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างของสหกรณ์นิคมนครชุมก็จะคืนในรูปแบบของค่าขนส่ง” สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชรกล่าวทิ้งท้าย