สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ค. 65 เวลา 7.00 น.

+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (125) จ.ชุมพร (103) และ จ.ลำปาง (103)

+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,709 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,811 ล้าน ลบ.ม. (56%) เฝ้าระวังน้ำน้อย จำนวน 4 แห่ง บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง) ภาคตะวันตก (1 แห่ง)

+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา

+ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 3 จ. (เชียงราย พะเยา และลำปาง) จำนวน 21 อ. 58 ต. 278 ม.

+ กอนช. ติตตามหน่วยงานดำเนินการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

เนื่องจากมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบนส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลมาสมทบกับบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 600 – 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกประมาณ 0.50 – 0.75 เมตร

กรมชลประทาน จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากปริมาณน้ำหลากตอนบนลดลง จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงตามลำดับ

ทั้งนี้ขอให้ ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด