กพน. ร่วมกับ กสศ. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

วันที่ 8 เมษายน 2565 เวลา 09.30 น. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา” โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมลงนามฯ ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้ได้รับการศึกษา และพัฒนาความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพตามความถนัดความสนใจ ก่อให้เกิดศักยภาพที่สามารถพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตได้ รวมถึงพัฒนาการจัดการศึกษาทางเลือก และการเรียนรู้สู่วิชาชีพให้แก่เด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม

ซึ่ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังกล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่เห็นคุณค่าการให้การศึกษาแก่เด็กและเยาวนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหัวใจสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ คือ การให้โอกาส จากการดำเนินงาน เราได้เห็นแววตาที่สะท้อนถึงความสุขและความตั้งใจที่จะทำเพื่อเด็กและเยาวชน ซึ่งหากมีจุดเริ่มต้นที่ดี ก็ย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ความคิดที่จะร่วมสร้าง เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ต่างๆ จนมาถึงวันนี้ วันที่เรามีนครพนมโมเดล และกำลังจะไปสู่ อุบลฯ โมเดล แม้จะมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่ผลที่คาดหวังนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน รูปแบบและกิจกรรมต่างๆ มีความแตกต่างกันบ้าง แต่ไม่ทำให้เราหลุดไปจากเป้าหมาย ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบที่ลงตัว

การลงนามในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของกรมพินิจฯ กรมพินิจฯ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้เราทำเพื่อเด็กและเยาวชน จะไม่มีการทิ้งเด็กแม้แต่เพียงคนเดียวไว้ข้างหลัง เราต้องให้เด็กทุกคนอยู่ในโอกาสที่ดี ผมเชื่อว่า กองทุนฯ ได้รับทราบและเข้าใจในหน้าที่ของกรมพินิจฯ อย่างดียิ่ง จึงให้โอกาสนี้กับกรมพินิจฯ ให้โอกาสในการศึกษาของเด็ก ความตั้งใจดีที่มีร่วมกันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้ ถ้าเราเชื่อเช่นนั้น มันจะเกิดอย่างนั้น ขอขอบคุณกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ และองค์กรต่างๆ ที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมนี้มาตั้งแต่ต้น เราจะเดินกอดคอไปด้วยกัน ก้าวไปพร้อมกัน ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทิศทางการดำเนินการกิจกรรมนั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจน และมุ่งมั่นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับต้องการของทั้งสองหน่วยงาน”

จากนั้น ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษามีความยินดีอย่างยิ่งในความร่วมมือครั้งนี้ เพราะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงสังคมไทย ซึ่งในประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษามากกว่า 4 แสนคน และเป็นเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม จำนวน 3,443 คน ตัวเลขนี้สะท้อนสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ถึงเส้นทางชีวิตของเด็กที่หลุดออกจากระบบเพราะไม่เพียงอยู่ในวงจรความยากจนข้ามชั่วคน แต่ยังอยู่ในวงจรการกระทำความผิดอีกด้วย อย่างไรก็ตามเด็กกลุ่มนี้ยังต้องได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่จะได้รับโอกาสทางด้านการศึกษา

โดยจากการทำงานของเราในหลายๆพื้นที่ เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นการเปิดโอกาสให้ได้ทำงานกับเครือข่ายภาคเอกชน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เด็กและเยาวชนที่ดีขึ้น แต่สังคมก็ได้โอกาสที่จะดีขึ้น เพราะจะได้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และสามารถสร้างสังคมให้เป็นสังคมที่มีอนาคต เฉกเช่นเดียวกับเขา สุดท้ายผมขอตัวอย่างคำพูดของเด็กคนหนึ่งที่พูดกับแม่ของเขาว่า เขาเชื่อว่าเขาจะทำได้ดีกว่านี้อีก แววตาของเด็กและของคนทำงาน คือ แววตาของการเห็นโอกาสในชีวิต และโอกาสในชีวิตเหล่านี้ ไม่ได้มองแต่ตัวของเขาแต่เป็นการคืนชีวิตให้กับครอบครัวของเขา และคืนอนาคตให้กับสังคม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานภายใต้ความร่วมมือนี้ จะสามารถแสวงหาภาคีเครือข่าย แสวงหาทรัพยากรต่างๆ เพิ่มขึ้น เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่า สังคมไทย เป็นสังคมแห่งการให้โอกาส เป็นสังคมที่อยากจะเห็นเด็กเหล่านี้ มีอนาคตที่ไปได้ดีกว่าเดิม”

โอกาสนี้ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจฯ (1) และนางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความร่วมมือนวัตกรรมและทุนการศึกษา ร่วมลงนามฯ เป็นสักขีพยาน โดยมี ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ผู้ตรวจราชการกรม กรมพินิจฯ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรมพินิจฯ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ จากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เข้าร่วมพิธีลงนามฯ ดังกล่าว ณ ห้องสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร