หยุดพนันออนไลน์ หยุดภัยร้ายยุคโซเชียล

“ผมลองเล่นพนันมาแล้วทุกรูปแบบทั้งเล่นไพ่ พนันบอล ติดเกมออนไลน์ เสียเงินไปเป็นล้าน เคยขโมยเงินพ่อแม่ที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เพื่อจะเอาไปเติมเกม”

“หนูติดเล่นบาคาร่าออนไลน์ ทีแรกก็หลอกล่อให้เราได้ แต่สุดท้ายแล้วก็เสียหมดเลย”

เสียงสะท้อนส่วนหนึ่งของเด็กและเยาวชนที่เคยก้าวพลาดจากการพนันออนไลน์และเกมออนไลน์ ซึ่งในความเป็นจริงยังมีเด็กและเยาวชนอีกมากมายหลายคนที่ยังติดกับดักการพนัน และตกเป็นเหยื่อเว็บไซต์พนันแบบถลำลึก มีปัญหาหรือได้รับผลกระทบในหลายรูปแบบ

ด้วยเหตุนี้ ทางโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีเสวนาหัวข้อ “1 ปีที่พ่ายแพ้ กับการแก้ปัญหาพนันออนไลน์” เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนปกป้องเด็กและเยาวชนไทย ให้ห่างไกลจากการพนันทุกรูปแบบ

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. ให้ข้อมูลสถานการณ์ปัญหาการพนันออนไลน์ว่า ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า การพนันเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่ และกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งในสังคมไทยมีผู้เล่นการพนันถึงร้อยละ 59.6 หรือ 32 ล้านคน เป็นเยาวชนอายุ 15- 25 ปี เกี่ยวข้องเล่นการพนันถึง 4.3 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 5 แสนคน โดยการพนันออนไลน์มีตัวเลขการเพิ่มขึ้นสูงมาก เพราะเข้าถึงได้ง่าย และมีประเภทการพนันที่หลากหลาย ขณะเดียวกันพบว่ามีการหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าพนันออนไลน์มาใช้คำว่าเกม เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบคอมพิวเตอร์

นางสาวรุ่งอรุณ บอกว่า จากการที่มีเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการพนันค่อนข้างมาก ทาง สสส. และภาคีเครือข่าย จึงได้ร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน “Just Stop Gambling” เพื่อเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกในการแจ้งเรื่องร้องเรียน และเบาะแสพนันออนไลน์ โดยมี 2 ช่องทางคือ เว็บไซต์ www.juststopgambling.com และทางแอปพลิเคชัน ไลน์ @juststopgambling โดยข้อมูลที่ได้รับแจ้งมา จะถูกส่งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป

“การป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งสำคัญ คือ ทุกคนต้องมีข้อมูลรู้เท่าทันการพนัน และเห็นว่าเป็นปัญหาที่อยู่ใกล้ตัว การพนันแม้เป็นการเล่นที่เหมือนให้ความบันเทิง และความสนุก แต่สุดท้ายแล้วจะนำมาซึ่งความทุกข์ ดังนั้น อยากให้ทุกคนรู้เท่าทันและร่วมกันแก้ไขปัญหาการพนัน” นางสาวรุ่งอรุณ ฝากทิ้งท้าย

“เวลาที่บอกว่ามีคนรวยจากการพนันคุณคิดถึงหน้าใครในโลกนี้ เรานึกไม่ออกเลยใช่หรือไม่ เพราะไม่มีใครเลยที่รวยจากการพนัน เพราะการพนันก็คือ การต้มตุ๋นอย่างหนึ่ง และคุณถูกโกงตั้งแต่เข้าไปเล่นแล้ว” เป็นความเห็นของ นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และหัวหน้าคณะทำงานด้านการเฝ้าระวังการพนันออนไลน์จากข่าวในสื่อต่างๆ

นายสุรเชษฐ์ เล่าให้ฟังว่า หนึ่งปีที่ผ่านมาเราได้เห็นข่าวการปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์มากถึง 2,323 เว็บไซต์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับการเติบโตของธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยปัจจุบันยังมีเว็บไซต์การพนันที่ยังไม่ถูกปิดอีก 356 เว็บไซต์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าเว็บไซต์พนัน มักจะมีระบบฐานข้อมูลอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้น แม้จะถูกปิดก็ยังสามารถเปิดขึ้นมาใหม่ได้เสมอ การไล่ปิดเว็บไซต์จึงเป็นแค่การปิดประตูช่องทางการเข้าถึงเท่านั้น

รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย บอกว่า ขณะที่เกมออนไลน์ต้องหาเงินมาเติม ก็ถือเป็นภัยที่ใกล้ตัวเด็กและเยาวชนมาก ๆ  ซึ่งถ้าลองสังเกตจะพบว่ามีการแอบแฝงการพนันทั้งสิ้น สิ่งที่น่ากังวลนอกจากสูญเสียเงินเติมเกมแล้ว คือ สุขภาพร่างกายของเด็กจะทรุดโทรมเร็ว สายตาก็จะเสีย เพราะหมกหมุ่นอยู่กับการเล่นเกม เวลาที่เสียไปแทนที่จะให้กับครอบครัวจะเหลือน้อยลงไปเรื่อย ๆ

 ด้าน นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ เติบโตขึ้นทั้งหมด และยิ่งถ้าธุรกิจการพนัน สามารถรวมเข้ากับเทคโนโลยีของโลกอนาคตได้เมื่อไหร่ เช่น บล็อกเชน (Blockchain) และเมตาเวิร์ส (Metaverse) การกระจายตัวของการพนันจะรวดเร็วไม่แพ้กับโควิด-19 ขณะที่การติดตามจับกุมก็ทำได้ยากขึ้นด้วย ดังนั้น แม้เราจะอยู่ในสงครามที่ไม่มีวันชนะ แต่ถ้าวันนี้ไม่ทำอะไรเลย คนแพ้ก็คือประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติ

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน บอกถึงแนวทางการจัดการปัญหาการพนันและการพนันออนไลน์ว่า

1.หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ต้องเดินหน้าปราบการพนันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

2.รณรงค์สร้างความรู้เท่าทัน ภัยจากการพนัน ให้มีความเข้มแข็งภายในจิตใจเพื่อป้องกันนักพนันหน้าใหม่

3.สร้างพื้นที่สร้างสรรค์มากกว่าพื้นที่เสี่ยง สำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อให้หลีกเลี่ยงออกจากเส้นทางของการพนัน

 การหยุดปัญหาพนันออนไลน์ คงจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ควบคู่ไปกับการชี้ให้เด็กและเยาวชนได้เห็นและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการพนัน โดยเฉพาะพนันออนไลน์ที่เข้าถึงได้ง่ายในยุคโซเชียล

 นอกจากนี้ ทาง สสส. และภาคีเครือข่าย ยังได้จัดกิจกรรม “Young สุข Young ไม่เสี่ยง” สร้างความรู้ความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงเรื่อง เหล้า บุหรี่ และการพนัน ลดปัจจัยเสี่ยงในโรงเรียน เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากการพนันและอบายมุขทุกชนิด สู่การมีสุขภาวะที่ดีในอนาคต