กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2565 ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานตาม 9 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2564/65

กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการผลิตและบริการน้ำดื่มสะอาด จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และกำแพงเพชร ในอัตราการผลิต 300 ลิตร/ชั่วโมง/แห่ง สามารถรองรับและให้บริการประชาชนได้กว่า 1,400 คน/วัน/แห่ง พร้อมช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้ง

2. แหล่งน้ำทั่วประเทศ

2.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 27,713 ล้าน ลบ.ม. (48%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 21,840 ล้าน ลบ.ม. (46%) ขนาดกลาง 355 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,307 ล้าน ลบ.ม. (68%) และขนาดเล็ก 139,894 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,566 ล้าน ลบ.ม. (51%) สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ภูมิพล และสิริกิติ์

2.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 4,671ล้าน ลบ.ม. (26%) โดยเขื่อนภูมิพล และสิริกิติ์ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

3. ผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ถึงปัจจุบัน)

3.1 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 21,670 ล้าน ลบ.ม. (46%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 16,678 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 12,898 ล้าน ลบ.ม. (77%)

3.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 4,700 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 4,155 ล้าน ลบ.ม. (88%)

4. ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง

การติดตามการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งมี ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าแผน จำนวน 33 จังหวัด ดังนี้

– ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย(+106%) ลำพูน(+54%) กำแพงเพชร(+49%) นครสวรรค์(+40%) พิจิตร(+34%) อุทัยธานี(+24%) แพร่(+21%) อุตรดิตถ์(+9%) เพชรบูรณ์(+7%) และพิษณุโลก(+5%)

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ(+284%) กาฬสินธุ์(+35%) นครพนม(+26%) หนองคาย(+22%) บุรีรัมย์(+16%) นครราชสีมา(+7%) สกลนคร(+4%) และมหาสารคาม(+2%)

– ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง(+280%) สิงห์บุรี(+204%) สระบุรี(+132%) ชัยนาท(+72%) ลพบุรี(+61%) สมุทรสาคร(+49%) สุพรรณบุรี(+41%) กรุงเทพมหานคร(+38%) พระนครศรีอยุธยา(+3%) และปทุมธานี(+1%)

– ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา(+5%) และตราด(+5%)

– ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี(+6%)

– ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต(+3%) และ ระนอง (ไม่มีแผนการเพาะปลูก มีการเพาะปลูก 236 ไร่)