“ทส.” ขานรับนโยบายนายกฯ ออกมาตรการเข้ม “ลดใช้พลังงาน”

วันที่ 23 มีนาคม 2565 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบาย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ให้ส่วนราชการรณรงค์ประหยัดพลังงาน ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณ โดยให้ส่วนราชการลดการใช้พลังงาน ร้อยละ 20 น้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 10 รวมทั้งส่งเสริม Work From Home ให้มากขึ้น และล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ และอนุมัติเป็นหลักการให้หน่วยงานราชการดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงานลดการใช้พลังงานร้อยละ 20 (รวมไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง) พร้อมทั้งรายงานผลการประหยัดพลังงานผ่าน www.e-report.energy.go.th นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) จึงได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดมาตรการประหยัดพลังงานเพื่อเร่งยกระดับแผนปฏิบัติการลดการใช้น้ำ ไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เป็นไปตามมติ ครม. พร้อมกำชับให้หน่วยงานปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ปฏิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงานในทุกมิติ อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ภายใต้แผนปฏิบัติการลดการใช้น้ำ ไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการประชุม/สัมมนา หรือตรวจราชการแบบออนไลน์ ตลอดจนจัดซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงฯ จำนวน 5 คันด้วยกัน รวมทั้ง สนับสนุนการปฏิบัติงาน ณ สถานที่พัก หรือ Work From Home อย่างเต็มความสามารถ อย่างน้อยร้อยละ 70 ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคโควิด-19 โดยประสิทธิภาพของการดำเนินงานต้องคงเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิม

อีกทั้ง สั่งเข้ม เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำ พลังงานไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีอยู่เดิมอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นในทุกระดับ อาทิ ติดต่อราชการเส้นทางเดียวกันต้องไปด้วยกัน (Car Pool) เปิดปิดเครื่องปรับอากาศ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องถ่ายเอกสาร และลิฟต์ ตามกำหนดเวลาอย่างคร่งครัด อาทิ ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ 26 องศาเซลเซียส เปิดใช้เวลา 08.50 น. ปิดเวลา 16.00 น. รวมทั้งปิดไฟช่วงพักเที่ยง ปิดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานเมื่อไม่ใช้งาน สลับการใช้ลิฟต์ตามเวลาที่กำหนด ปิดก๊อกน้ำให้สนิท ตรวจสอบมิเตอร์น้ำและอุปกรณ์ใช้น้ำให้อยู่ ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมประจำปี ตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564) ประจำปีงบประมาณ 2565 โครงการประหยัดพลังงาน สานฝันสู่อนาคต

นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการเป็นไปอย่างเข้มงวดและเกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้มีการสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานควบคุม กำกับดูแล ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าและผลการดำเนินงานทุก 2 เดือน พร้อมจัดทำรายงานและประเมินผลการใช้น้ำ ไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ตามแผนปฏิบัติการฯ รอบ 6 เดือน และ 12 เดือน รายงานต่อหัวหน้าส่วนราชการ โดยเคร่งครัด