กระทรวงคมนาคมประชุมคณะทำงานกำกับนโยบายเพื่อเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมคณะทำงานกำกับนโยบายเพื่อเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 ภายใต้หัวข้อ “OPEN. CONNECT. BALANCE. : เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” โดยมี นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัด เข้าร่วมประชุมฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม และผ่านระบบการประชุมทางไกล

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานเอเปค ปี 2565 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมร่วมเป็นกรรมการ โดยกระทรวงคมนาคมรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 (APEC Transportation Working Group : TPTWG 52) เบื้องต้นกำหนดจัดประชุมระหว่างวันที่ 14 – 16 กันยายน 2565 ณ กรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย คือ “OPEN. CONNECT. BALANCE. : เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”

โดยมีประเด็นสำคัญ คือ การทำให้เอเปคเปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ และสร้างสมดุลในทุกด้าน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลที่เห็นเด่นชัดขึ้นจากวิกฤติโรคระบาด และการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) เน้นการค้าการลงทุนแบบเสรีและการกระชับความร่วมมือในการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างปลอดภัย ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนการทำงานในทุกมิติ โดยที่ประชุม TPTWG ของเอเปค ครั้งที่ 51 ได้มีมติเห็นชอบหัวข้อนโยบายหลัก ซึ่งจะเป็นหัวข้อสำหรับการหารือในแต่ละกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในการประชุม TPTWG ของเอเปค ครั้งที่ 52 ดังนี้

– กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งทางอากาศ หัวข้อ “การพัฒนาการบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานและโอกาสในการเติบโตและฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ”

– กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและระบบขนส่งอัจฉริยะ หัวข้อ “ปรับปรุงความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานและความเชื่อมโยงในยุคหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19”

– กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งทางบก หัวข้อ “มุ่งสู่การขนส่งเขตเมืองที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความอัจฉริยะ และครอบคลุมในภูมิภาคเอเปค”

– กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งทางน้ำ หัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการขนส่งทางทะเลอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเปค”

นายชยธรรม์ พรหมศร กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ บูรณาการการทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม TPTWG ของเอเปค ครั้งที่ 52 อย่างแข็งขัน โดยใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ในครั้งนี้ ผลักดันและส่งเสริมผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนชาวไทยในทุกด้าน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน จำนวน 6 คณะ เพื่อให้การทำหน้าที่เจ้าภาพจัดการประชุม TPTWG ของเอเปค ครั้งที่ 52 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย คณะทำงานกำกับนโยบายเพื่อเตรียม การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 คณะทำงานกลุ่มย่อยด้านสารัตถะสำหรับการขนส่งทางอากาศ คณะทำงานกลุ่มย่อยด้านสารัตถะสำหรับการขนส่งทางบก คณะทำงานกลุ่มย่อยด้านสารัตถะสำหรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและระบบขนส่งอัจฉริยะ คณะทำงานกลุ่มย่อยด้านสารัตถะสำหรับการขนส่งทางน้ำ และคณะทำงานกลุ่มย่อยด้านพิธีการและประชาสัมพันธ์

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคมได้มอบให้คณะทำงานกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มใช้โอกาสจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม TPTWG ของเอเปค ครั้งที่ 52 นำเสนอโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่ของประเทศไทยที่ต้องการเชิญชวนนักลงทุนระหว่างประเทศมาร่วมลงทุน เช่น โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย (Land Bridge) โครงการศึกษาการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับระบบราง (MR – Map) เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นร่วมกันระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยควรจะเป็นผู้นำหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ สำหรับด้านการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคตทั้งอากาศยานไร้คนขับ (Drone) และยานพาหนะไร้คนขับอื่น ๆ (autonomous carriers) ซึ่งมีมากขึ้นจากการมาถึงของเทคโนโลยี 5G หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่เป็น Regulator จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้มีมาตรการด้านความปลอดภัย และต้องประสานหารือในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดระเบียบให้ทันต่อสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป