นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าปีนี้เป็น“ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน”ประกอบกับนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้เช่าซื้อรถยนต์ (ลิสซิ่ง) กระทรวงยุติธรรม โดยกรมบังคับคดีและกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้ร่วมจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 2 และยุติธรรมพบประชาชน ขึ้น ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ณ ตลาดเทิดไท ตาลคู่ จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้แนวคิด “มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน”
อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยต่อไปว่า การจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ ได้มีการเชิญลูกหนี้จำนวนกว่า 12,000 ราย เป็นลูกหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในชั้นก่อนฟ้อง และหลังศาลมีคำพิพากษาซึ่งมีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสถาบันการเงินต่างๆ เข้าร่วมอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย
1. บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)
2. บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด
3. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด
4. ธนาคารกรุงเทพ จํากัด
5. ธนาคารออมสิน
6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่เข้าร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในเบื้องต้น คือ
1.การขยายเวลาการชำระหนี้
2.การลดเบี้ยปรับ การลดดอกเบี้ย การลดค่างวดรายเดือน
3.ไม่ถูกฟ้องคดี
4.งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด และสิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมโดยกรมบังคับคดีและกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนครั้งที่ 3 และยุติธรรมพบประชาชน ในวันที่ 23 มีนาคม 2565 ณ ฮออล์ชั้น 5 เซ็นทรัลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และในพื้นที่จังหวัดส่วนภูมิภาคต่อไป
จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ของสถาบันดังกล่าว ที่มีปัญหาหนี้สินเข้าร่วมงาน โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่าน QR Code และรับบัตรคิวเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยหน้างาน โดยการไกล่เกลี่ยจะมีผู้ไกล่เกลี่ยเป็นคนกลาง และมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงการไกล่เกลี่ยเป็นลายลักษณ์อักษร จึงอยากให้ทุกท่านมาร่วมงาน และควรมาด้วยตัวเองเพื่อชี้แจงกับเจ้าหนี้ กระทรวงยุติธรรมโดยกรมบังคับคดีและกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะเดินหน้าจัดงานไปทุกภาคทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2881 4840 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 0 2141 2768 -73