กรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ

วันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ(กทม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า มีการใช้น้ำไปแล้ว 14,814 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 66 ของแผนฯ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 11,905 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 5,209 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 4,163 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 73 ของแผนฯ
ปัจจุบัน (7 มี.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 50,905 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ประมาณ 26,967 ล้าน ลบ.ม. ส่วนผลการทำนาปรังในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้งประเทศมีการทำนาปรังไปแล้วกว่า 7.40 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 115 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วประมาณ 4.39 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 156 ของแผน

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำอย่างประณีตและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือให้สามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งได้อย่างทันที

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ ปริมาณฝนอาจจะลดน้อยลง จึงได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เร่งเก็บกักน้ำในช่วงขณะนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วง พร้อมติดตามสภาพอากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ที่สำคัญทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อทุกกิจกรรมไปตลอดฤดูแล้งนี้