“ยุติธรรม เผย สถานการณ์โควิด-19 กรมราชทัณฑ์ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 8 พร้อมกำชับทุกเรือนจำ ป้องกันและเฝ้าระวังเชื้อตามแผน BCP อย่างเคร่งครัด”
ในวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 เวลา 08.30 น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 10/2565 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน สถานะเรือนจำในวันนี้ยังคงที่ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม จึงยังคงมีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 130 แห่ง และเรือนจำสีแดง 12 แห่ง ซึ่งแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง ระบาดซ้ำ 1 แห่ง และที่พบการระบาดเพียงบางส่วนอีก 5 แห่ง ขณะที่เรือนจำกลางตากอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้ว
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 74 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 61 ราย และในเรือนจำสีแดง 13 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,583 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 85.5% กลุ่มสีเหลือง 13.8% และกลุ่มสีแดง 0.7% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 87,371 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 91,513 ราย โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 8 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 192 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมในวันนี้ ได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ยกระดับการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด รวมถึงการควบคุมการระบาดภายในเรือนจำและทัณฑสถานภายใต้แผนการบริหารความพร้อมในสภาวะวิกฤต (BCP) อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสุ่มตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังทั่วไป และการตรวจหาเชื้อในผู้ช่วยเหลือและผู้ช่วยงานเจ้าพนักงานเรือนจำในเรือนจำสีขาวทุกคนตามระยะเวลา รวมทั้งมาตรการเพื่อป้องกันเชื้อจากผู้ต้องขังรับใหม่ จากเจ้าหน้าที่ และจากสิ่งของที่มาจากภายนอก ตลอดจนการรักษามาตรการเพื่อป้องกันเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมทบทวนขั้นตอนและการปฏิบัติงานของเรือนจำและทัณฑสถานให้มีความถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายนอกอยู่เสมอ
ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์นั้น ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,239 ราย หรือคิดเป็น 93.04% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,815 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 พบมีผู้ติดเชื้อและอยู่ระหว่างการรักษาตัวเป็นจำนวน 156 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 53 ราย และเยาวชน จำนวน 103 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 37 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 18 แห่ง พบว่ามีการติดเชื้อ และอีก 1 แห่งหมดสถานะ ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน จำนวน 3,376 ราย หรือคิดเป็น 90.53% จากทั้งหมด 3,729 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 4,005 ราย หรือคิดเป็น 92.98% จากทั้งหมด 4,307 ราย