อุบลฯ รวมพลัง “บวร” สนับสนุนและขยายผล “โคก หนอง นา โมเดล” แปลง CLM วัดป่าศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม สู่ Quick Win “เข้าวัด 1 คน แก้จน 1 ครอบครัว” เป็นต้นแบบการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ)
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดม นายถาวร แสนเพ็ง พัฒนาการอำเภอทุ่งศรีอุดม นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ รวมไปถึงคณะทำงานภาคีเครือข่ายครูอาจารย์จากวิทยาลัยการอาชีพวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ลงพื้นที่เพื่อติดตามสนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และตรวจรับเครื่องผสมอาหาร ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการฯ กิจกรรมสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์สาธิตสำหรับประจำฐานการเรียนรู้ สำหรับพัฒนายกระดับการแปรรูปผลผลิตด้วยนวัตกรรม โดยจัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อขยายผลและต่อยอดไปสู่การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียงSufficiency Economy Development Zones for Sustainable Development Goals (SEDZ for SDGs) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG) ณ แปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” แปลงศูนย์เรียนรู้ระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) วัดป่าศรีเเสงธรรม บ้านดงดิบ หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
โดยมีพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พระนักพัฒนาที่เสียสละเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นมาโดยตลอดตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ ได้เมตตาสนับสนุนและให้ข้อมูลในการดำเนินงาน ร่วมกับนางไพรวัลย์ คำจริง พัฒนาการอำเภอโขงเจียม เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน จาก 5 ตำบล 52 หมู่บ้านในเขตอำเภอโขงเจียม ที่สนใจเข้าร่วมดังกล่าวเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลผ่านทางกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” แปลงศูนย์เรียนรู้ระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) กิจกรรมที่ 5 บูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับตำบล กิจกรรมสนับสนุนอุปกรณ์สาธิตในพื้นที่เรียนรู้ระดับตำบล จำนวน 71 แปลง ในพื้นที่ 21 อำเภอ โดยดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบเเละตรวจรับครุภัณฑ์ให้กับพื้นที่ชุมชนต้นแบบทั้ง 71 แปลง
สำหรับแปลง CLM วัดป่าศรีเเสงธรรม ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แห่งนี้ได้รับครุภัณฑ์จำนวน 6 รายการ คือ เครื่องผสมอาหารสัตว์ DC Motor 3 HP, เครื่องสับย่อยอาหารสัตว์และกิ่งไม้, เครื่องสกัดน้ำมันจากพืช Bio Diesel, เครื่องบรรจุอาหารกระป๋อง, เครื่องขึ้นรูปภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ และเครื่องบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศใช้พลังงาน Solar Cell
โอกาสนี้ พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้นำคณะจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี และคณะผู้สนใจจากอำเภอโขงเจียม ได้ร่วมตรวจสอบและชมการสาธิตการใช้งานวัสดุครุภัณฑ์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขยายผลโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” แปลง CLM วัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม สู่การเป็นต้นแบบในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG) ตามนโยบายรัฐบาลและจากดำริของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อคราวลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” วัดป่าศรีแสงธรรม ในเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังได้นำพาคณะฯ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่เขตการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงมีการระดมความคิดจากตัวแทนชุมชนทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ทราบถึง จุดเด่น จุดด้อย อุปสรรค และโอกาส ในการพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามที่ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแนวใหม่ เพื่อให้พี่น้องประชาชน พ้นจากความยากจน ซึ่งทางวัดมีโรงเรียนศรีแสงธรรม ที่เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ และมีคณะครูที่เป็นโค้ช คอยช่วยเหลือนักเรียนให้ทำโครงการ “นักเรียน 1 คน แก้จน 1 ครอบครัว” ซึ่ง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กำหนดให้มีกิจกรรมริเริ่มสร้างสรรค์ที่สำเร็จโดยเร็ว หรือ Quick Win ในพื้นที่โครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” และ 1 ตำบล 1 เกษตรทฤษฎีใหม่ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อย่างน้อยอำเภอละ 1 กิจกรรมหรือโครงการ โดยนำหลักการ วิธีการ วิธีคิด การทำ “โคก หนอง นา” ให้พอกิน พอมี พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น ต่อยอดไปสู่การให้ความช่วยเหลือ แบ่งปัน จนมีมากพอที่จะขายสร้างรายได้ และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงไปทั่วประเทศและทั่วโลกได้
กิจกรรมในวันนี้ จึงถือเป็นการให้คณะจากจังหวัดฯ และชาวอำเภอโขงเจียม ได้ช่วยกันออกแบบการพัฒนาพื้นที่แก้ไขปัญหาความยากจน และการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยมีวัดป่าศรีแสงธรรม เป็นศูนย์กลาง และเป็นแหล่งให้ความรู้ ให้ปัญญา ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป โดยมีคุณธรรมกำกับ ดังนั้น วัดจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของชุมชน ไม่เว้นแม้เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เมื่อกินอิ่ม นอนหลับ ทุกคนย่อม พร้อมรับการพัฒนา ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้มีปัญญา ย่อมหาทรัพย์ได้”
ท้ายที่สุด นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี และนายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดม ยังได้ร่วมทำบุญบริจาคซื้อที่ดินถวายวัด รวมเป็นเงิน 7,000 บาท เป็นการสร้างบุกุศลอันยิ่งใหญ่ ส่งผลให้มีความสุขกาย สุขใจ และนำความสำเร็จในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ไปพัฒนาพื้นที่อื่นต่อไป
อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี.. ภาพข่าว/รายงาน