+ ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ตราด (97 มม.) จ.ฉะเชิงเทรา (80 มม.) และ จ.อุทัยธานี (61 มม.)
+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 32,340 ล้าน ลบ.ม. (56%) ขนาดใหญ่ 26,011 ล้าน ลบ.ม. (54%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 4 แห่ง (เขื่อนแม่กวงฯ แม่งัด ภูมิพล และ สิริกิติ์)
+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง แม่กลอง อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณออกซิเจนละลายในแม่น้ำ ที่ท่าจีน และแม่กลอง ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
+ กอนช. เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและความเค็มรุกตัวบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย. 65
กอนช. ติดตามข้อมูลการคาดการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในช่วงเดือน ก.พ.–เม.ย. 65 ของ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยข้อมูลฐานน้ำขึ้นสูงสุดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าสถานีป้อมพระจุลจอมเกล้า คาดว่า จะเกิดภาวะน้ำทะเลขึ้นเต็มที่ ในช่วงวันที่ 14 – 18 ก.พ. 65 ระดับน้ำอยู่ที่ +1.40 ม.รทก. ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 4 มี.ค. 65 ระดับน้ำอยู่ที่ +1.50 ม.รทก. และในช่วงวันที่ 16 – 18 มี.ค. 65 ระดับน้ำอยู่ที่ +1.25 ม.รทก. ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ และน้ำเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำใช้อุปโภคบริโภค รวมทั้งการใช้น้ำเพื่อการเกษตรได้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
– ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำ และเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า
– ติดตามคุณภาพน้ำ หากมีแนวโน้มมีค่าความเค็มสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน โดยปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ เพื่อเร่งผลักดันน้ำเค็มโดยเร็ว
– ปรับแผนการผลิตน้ำประปาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อคุณภาพน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการน้ำใช้อุปโภคบริโภค และรวมทั้งการใช้น้ำเพื่อการเกษตรบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้แก่ประชาชนทราบล่วงหน้า