วันที่ 13 มกราคม 2565 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ประสานความร่วมมือในการสร้างการรับรู้และสื่อสารประชาสัมพันธ์ในการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (CLM) นายประเสริฐ ดีปาละ บ้านนาดี หมู่ที่ 4 ตำบลนาดี อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับพื้นที่เรียนรู้แปลง CLM ของนายประเสริฐ ดีปาละ แห่งนี้ เริ่มต้นจากกิจกรรมการปลูกพืชชนิดต่างๆ ในช่วงประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2564 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 8 เดือน โดยประมาณ ทำให้ต้นพืชชนิดต่าง ๆ รวมถึงสัตว์เลี้ยงได้มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด เช่น
1)แพะเนื้อ มีผลผลิตออกจำหน่ายแล้ว รวมถึงพ่อ แม่พันธุ์ ให้แก่ผู้ที่สนใจ พร้อมคำแนะนำเทคนิคการเลี้ยงดู
2)กล้วยน้ำว้า มีการจำหน่ายหน่อกล้วย แก่ผู้ที่สนใจ นอกจากนั้น ในแปลงยังมีใบตองจำหน่ายลูกค้าที่มารับประจำ เพื่อไปจำหน่ายให้แก่ร้านส้มต่อนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งจำหน่ายกิโลกรัมละ 10-15 บาท
3)ข่าเหลือง จำหน่ายพันธุ์ข่าเหลืองกิโลกรัมละ 25 บาท (ผลิตได้ไม่พอแก่ความต้องการของตลาด)
4)เห็ดนางฟ้า จำหน่ายเห็ดนางฟ้ากิโลกรัมละ 70-80 บาท ซึ่งมีผลผลิตออกทุกวันๆ ละ 10-20 กก. ต่อวัน
5)ตะไคร้ ตัดจำหน่ายทุกวันๆละ 20-30 กิโลกรัมต่อวันจำหน่ายกิโลกรัมละ 10 บาท และทางศูนย์เรียนรู้ CLM ยังมีชีวภัณฑ์เชื้อสดจำหน่าย เช่น ไตรโคเดอร์มา เมตาไรเซียม บิวเวอร์เรียเป็นต้น และเปิดสอนวิธีการเพาะเชื้อชีวภัณฑ์แก่ผู้ที่สนใจเรียนรู้ด้วย
โอกาสนี้ นายประเสริฐ ดีปาละ เจ้าของแปลง CLM แห่งนี้ ได้เปิดเผยว่า “แปลงของตนนั้น ได้รับการขนานนามว่า “3 สลึงดีป่ะล่ะ” ซึ่งถือเป็นศูนย์เรียนรู้ “โคก หนอง นา” น้องใหม่ จึงขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่าน และสามารถติชมแนะได้เสมอ ขอขอบคุณรัฐบาล หน่วยงานกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ให้การสนับสนุนพี่น้องประชาชน จนสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตภายในแปลงตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ”
ขณะที่ นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบแนวทางการดำเนินงานแก่เจ้าของแปลงฯ ว่า “สำหรับพื้นที่แปลง “โคก หนอง นา” ระดับตำบลแห่งนี้ เป็นศูนย์เรียนรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครอบครัว ชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือความพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น เป็นความมั่นคงขั้นพื้นฐาน และจักขยาย เป็นความมั่นคงขั้นก้าวหน้า คือบุญ ทาน เก็บขาย ผลผลิตจาก “โคก หนอง นา” และการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในอนาคตต่อไปข้างหน้าชุมชนจะมีแหล่งน้ำและอาหารไว้กินไว้ใช้ ไว้แบ่งปันในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ครบถ้วน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนที่แปลงจะก้าวสู่เศรษฐกิจพอเพียงขั้นก้าวหน้า พร้อมวางแผนขยายผลเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบให้แก่ประชาชนในพื้นที่รวมถึงแบ่งปันผลผลิตและจำหน่ายพืชผักและการแปรรูปผลผลิตอาหารปลอดภัยด้วย”