ความปลอดภัยทางถนน เริ่มที่ชุมชนท้องถิ่น

อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอีกแล้ว ปัญหาที่ทุกฝ่ายมีความกังวลและพยายามรณรงค์อย่างต่อเนื่องกันทุกปีในเทศกาลนี้ คือ การลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งสร้างความสูญเสียอย่างมากมายหลายมิติ

ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ 2564 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 รวม 7 วัน พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวมมากถึง 3,333 ครั้ง จากข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า อุบัติเหตุยังคงเป็นเรื่องใกล้ตัว และประมาทไม่ได้อยู่เสมอ

การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อออกแบบและวางแผนขับเคลื่อน “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” โดยชุมชนท้องถิ่น จึงเกิดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการดำเนินงานตำบลขับขี่ปลอดภัยของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่และหนุนเสริมการขับเคลื่อนในเชิงนโยบายระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ  เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนถือเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของปัญหาสาธารณสุขของไทย

การลดอัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนนเป็น 1 ในทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี ของ สสส. ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. กล่าวว่า สสส.มีประเด็นที่อยากพัฒนาในการบูรณาการ นั่นคือ เรื่องอุบัติเหตุ ความปลอดภัยทางถนน โดยเริ่มที่ชุมชน เพราะเมื่อใดที่ชุมชนเข้มแข็ง ย่อมส่งผลถึงสุขภาพของคนในชุมชน สสส.ทำงานร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน กระตุ้นให้เกิดงานสร้างเสริมสุขภาพมากขึ้น จุดสำคัญ คือ ต้องทำให้ชุมชนท้องถิ่นเข็มแข็ง

“เรื่องความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน สสส.และภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนการทำงาน โดยมุ่งลดพฤติกรรมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนและสร้างพฤติกรรมความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เช่น รณรงค์ขับไม่ดื่ม สวมหมวกนิรภัย และสร้างสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อความปลอดภัยในการใช้รถ และใช้ถนน รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการใช้มาตรการทางสังคม เช่น การจัดการจุดเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ การจัดการยานพาหนะเสี่ยง และระบบขนส่งสาธารณะ”

ดร.ประกาศิต ยังกล่าวต่ออีกว่า สสส. มีเป้าหมายชัดเจน คือ คุณภาพชีวิตของประชาชนต้องดีขึ้น เชื่อว่าหากดำเนินโครงการต่อเนื่องจะได้รับการเผยแพร่และขยายผลต่อไป

นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัฐฤทธิ์   ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. ดูแลการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนน 80% โดย สสส.มีกลไกการทำงานแบบไตรพลัง นั่นคือ วิชาการ นโยบาย และประชาสังคม โดยมุ่งการทำงาน 4 ด้าน ได้แก่

1.พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศและจัดการความรู้อุบัติเหตุทางถนน

2.ขยายเครือข่ายภาคีภาคประชาชนและรณรงค์ประชาสัมพันธ์

3.พัฒนาโครงสร้างและการบูรณาการระดับพื้นที่

4.พัฒนานโยบาย มาตรการและสร้างเป้าหมายร่วม

พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย

1.ไม่สวมหมวกนิรภัย

2.ขับรถเร็ว ประมาท

3.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

4.ดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะ

เพื่อเป็นการหนุนเสริมศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นในการจัดการลดอุบัติเหตุในระดับพื้นที่ นายภัทรพล บัญชาจารุรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลกุดจิก เทศบาลตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เล่าถึงการทำงานลดอุบัติเหตุในระดับพื้นที่ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ได้วางแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้

1.เพิ่มป้ายบอกทางและแจ้งเตือนมากขึ้น

2.เพิ่มการประชาสัมพันธ์ โดยใช้โซเชียลมีเดียช่วยในการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น

3.เรียกผู้นำชุมชนมาร่วมวางแผนในการดำเนินงาน

4.ตั้งด่านชุมชน ตรวจใบขับขี่และการสวมหมวกกันน็อก

5.ทำแผนที่จุดเสี่ยง

เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคเหนือ โดยนายสมเกียรติ คำแสนยศ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ที่เล่าว่า ในพื้นที่ตำบลทรายขาวได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมีการดำเนินงาน ดังนี้

1.ตั้งจุดจับความเร็ว

2.จัดชุดลาดตระเวร มีการห้ามปรามตักเตือน และจับเป่าวัดค่าแอลกอฮอล์

3.ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของแต่ละหมู่บ้าน

สสส. เเละภาคีเครือข่ายได้ขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่จะลดอุบัติเหตุและการสูญเสียให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ อย่างเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีช่วงเวลา 7 วัน อันตรายที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุอย่างใกล้ชิด “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนงานป้องกัน แก้ปัญหาอุบัติเหตุ โดยเริ่มจากคนในชุมชน ซึ่งมีความเข้าใจในสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นที่ตนอาศัยอยู่ อาศัยจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นการส่งต่อข้อมูล ความรู้ ร่วมกันเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาโดยชุมชนเพื่อชุมชน ก่อนขยายผลออกสู่สังคมต่อไป

ปีใหม่ 2565 นี้ มาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ไปด้วยกัน ด้วยการช่วยกันลดตัวเลขอุบัติเหตุและความสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งลดภาระบุคลากรทางการแพทย์  ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัย ทำอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์  เริ่มจากตัวเองและพลังเล็ก ๆ ของคนในชุมชน สร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย สู่สังคมไร้อุบัติเหตุอย่างยั่งยืน