วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.00 น.นายสุภาพ สุขแก้ว พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสุพรรณบุรี โดย นายศักดิ์ชาย เกรียงไกรยศ พัฒนาการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี นางเกศกร ตุนา นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ พร้อมด้วย นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ บุคลากรในสังกัด เข้าร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” พื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Household Lab Model for quality of life : HLM) ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ ณ ครัวเรือนนางสาวพสธร ศรีวิเชียร เลขที่ 10 ม.4 ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
สำหรับกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน ปลูกป่า 5 ระดับ ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ และปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้เชิญหน่วยงานและภาคีเครือข่ายมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย โดยกิจกรรมการเอามื้อสามัคคีเป็นการตอกย้ำอุดมการณ์และเสริมสร้างทักษะหลักกสิกรรมธรรมชาติ ประกอบไปด้วยกิจกรรม
1) กิจกรรมการทำปุ๋ยหมัก เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ ช่วยเปลี่ยนสภาพของดินให้สะดวกในการไถพรวน รักษาความชุ่มชื้นในดิน การถ่ายเทอากาศในดินได้ดี กระตุ้นให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินที่ละลายน้ำยากให้ละลายน้ำง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อดินแม้จะใช้ในปริมาณมาก ๆ ติดต่อกันนาน ๆ และช่วยปรับสภาพแวดล้อม เช่น กำจัดขยะมูลฝอยและวัชพืชให้หมดไป
2) การปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ตะไคร้ ใบโหระพา เป็นต้น
โดยนางสาวพสธร ศรีวิเชียร เจ้าของแปลงฯ กล่าวภายในกิจกรรมฯวันนี้ว่ารู้สึกขอบคุณกรมการพัฒนาชุมชนที่มีการส่งเสริมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ให้ได้มีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งโดยปกติการทำนาทุกปี ต้องรอน้ำจากระบบชลประทาน ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำได้ ทำให้บางปีผลผลิตข้าวไม่ดี เพราะน้ำไม่พอ เมื่อเห็นกรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี ประชาสัมพันธ์โครงการ จึงเข้าไปขอข้อมูลจากอำเภอเมืองสุพรรณบุรี และสมัครเข้าร่วมโครงการ ดีใจที่ได้ร่วมออกแบบพื้นที่ และที่สำคัญคือการมีน้ำสำหรับทำการเกษตรในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ยืนต้น ได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้ครอบครัว ชุมชนสามารถลดรายจ่าย มีรายได้เพิ่มจากการปลูกพืชผักสวนครัว ทั้งยังมีอาหารปลอดภัยไว้รับประทานในครัวเรือน เมื่อเหลือก็ได้เผื่อแผ่แบ่งปัน ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดความรักความสามัคคีในชุมชน ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้
ช่วงสุดท้ายของกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” คือการท่องคาถา “เลี้ยงดิน ให้ดิน เลี้ยงพืช” และการเก็บอุปกรณ์ เมื่อเสร็จจากกิจกรรมลงมือปฏิบัติ ก็จะแบ่งปันร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานจริง
ทั้งนี้ ในการดำเนินกิจกรรมฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด