วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่นและประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการ ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ณ ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า นับแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนช่วยเหลือสถานประกอบการ พี่น้องผู้ใช้แรงงาน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด สมกับการเป็น “ข้าราชการไทยเข้มแข็งในความดี มีจิตอาสา พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน” แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้าราชการ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติและบริหารงานราชการของแผ่นดิน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ภารกิจของกระทรวงแรงงานที่สำคัญ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยมีนโยบายเร่งด่วน และนโยบายสำคัญ ที่ต้องอาศัยทุกท่านเข้ามาร่วมคิดร่วมทำ เพื่อ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” นำกระทรวงแรงงานไปสู่การฟื้นฟู และพลิกโฉมตลาดแรงงานไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบแนวทางการปฏิบัติราชการให้ทุกคน ดังนี้
1) ขอให้มีการบูรณาการข้อมูลด้านแรงงานที่สามารถนำมาวิเคราะห์ข้อมูลในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านแรงงานได้อย่างเป็นระบบและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และ BCG หรือโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
2) สร้างช่องทางการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงพี่น้องผู้ใช้แรงงานผ่าน Social Media ที่มีความเหมาะสม รวดเร็ว เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและใช้ประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
3) สร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชน ส่งเสริมให้อาสาสมัครแรงงานและบัณฑิตแรงงานเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
4) การปฏิบัติราชการ โดยคำนึงหลักการ – เหตุผล – ผลลัพธ์ เพื่อมองภาพรวมและนำไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ สอดรับกับเป้าหมายในการสร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานทั้งในและนอกระบบ
ดังนั้น ในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ข้าราชการของกระทรวงแรงงาน จึงต้องมีความรู้ความสามารถ มีสมรรถนะ มีทักษะ มีความพร้อมในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง สามารถประสานงานเชื่อมโยงและบูรณาการการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดนวัตกรรม ตลอดจนมีการสร้างพันธมิตร และเครือข่ายด้านแรงงาน ร่วมสร้างสังคมที่อบอวนไปด้วยคุณงามความดีตามแบบวิถีของความเป็นไทย ธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของประเทศ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
“ในฐานะที่ผมเป็นข้าราชการเช่นเดียวกับทุกท่าน ผมรู้สึกภูมิใจที่ราชการและประเทศไทย มีข้าราชการที่ดี สามารถ “ครองตน ครองคน ครองงาน” อย่างที่ ทุกท่านได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เป็นข้าราชการที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ขอให้ทุกท่านจงภาคภูมิใจ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวในการปฏิบัติราชการ มีความมุ่งมั่นทุ่มเท เสียสละทั้งแรงกายแรงใจ อุทิศเวลาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ร่วมเสริมสร้างพลังเครือข่ายด้านแรงงาน ร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนภารกิจสนองตอบนโยบายของรัฐบาลไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้คัดเลือก ข้าราชการและลูกจ้างประจําที่มีความประพฤติและมีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ให้เป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น จํานวน 10 ราย และกระทรวงแรงงาน ได้มีคําสั่ง เลื่อนข้าราชการให้ดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับสูงของกระทรวงแรงงาน จํานวน 83 ราย
+++++++++++++++++++