นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคายาป้องกันฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสารเคมีเกษตรเหล่านี้เป็นสินค้าที่ต้องนำเข้า 100% เมื่อประเทศผู้ผลิตรายใหญ่โดยเฉพาะจีนปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งต้นทุนค่าวัตถุดิบและค่าขนส่งปรับเพิ่มขึ้นราคาจึงขึ้นตามไปด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมีบัญชาให้กรมการค้าภายในประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร
กรมการค้าภายในจึงได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมนวัตกรรมการค้าเพื่อการเกษตรไทย จัดทำโครงการลดราคาเคมีเกษตร ช่วยเกษตรกร โดยผู้ผลิตและนำเข้ายาป้องกันฯ จำนวน 22 ราย นำสารกำจัดวัชพืช แมลง โรคพืช รวม 74 รายการ ปริมาณรวม 235,268 ลิตร,กิโลกรัม มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผ่านสหกรณ์และสถาบันเกษตรกรในราคาถูกกว่าท้องตลาด ส่วนลดสูงสุดประเภทสารกำจัดโรคพืช (สาร Validamycin)ลดสูงสุด 35% ประเภทสารกำจัดแมลง (สาร Thiamethoxam) ลดสูงสุด 26% และประเภทสารกำจัดวัชพืช (สาร Triafamone) ลดสูงสุด 22% โดยมีสารเคมีเกษตรที่ใช้มาก เช่น สารไกลโฟเซต จากราคาทั่วไป 800 บาท ราคาโครงการ 600 – 650 บาท สารกลูโฟซิเนต จากราคาทั่วไป 990 บาท ราคาโครงการ 970 บาท และสารทู,โฟ-ดี จากราคาทั่วไป 190 บาท ราคาโครงการ 165 บาท เป็นต้น จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถช่วยบรรเทาภาระต้นทุนการผลิตของเกษตรกรได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ สหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 – 6 สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ และสหกรณ์จังหวัด หรือตรวจสอบรายละเอียดได้ที่ www.dit.go.th นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ในการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษให้แก่เกษตรกร ผ่านโครงการบัตรเกษตรสุขใจ โดยมีวงเงินบัตรสูงสุด 50,000 บาท ไม่คิดดอกเบี้ยในเดือนแรก เพื่อนำไปซื้อปัจจัยการผลิตของเกษตรกร
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในกำกับดูแลด้านราคา โดยผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้นำเข้า จะต้องแจ้งต้นทุน (ยี่ห้อ สารสำคัญ ต้นทุนผลิต ค่าใช้จ่าย) ราคาจำหน่ายยาป้องกันฯ สำหรับผู้นำเข้าจะต้องแจ้งการนำเข้า (ปริมาณ ราคา ยี่ห้อ สารสำคัญ) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นำเข้า ตามประกาศ กกร.ซึ่งกรมการค้าภายในจะมีการติดตามราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากพบว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้า ในราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท สามารถแจ้งหรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

