18 พฤศจิกายน 2564, กรุงเทพมหานคร – นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 พร้อมมีมติเห็นชอบ 3 ข้อเสนอจาก ดีป้า ทั้งการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดำเนินภารกิจในการขับเคลื่อน วิเคราะห์ และบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ การจัดทำบัญชีบริการดิจิทัลเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการด้านดิจิทัลของประเทศไทย และ (ร่าง) กรอบแนวคิดแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระยะที่ 2

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
โดยที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนในการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดำเนินภารกิจในการขับเคลื่อน วิเคราะห์ และบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ (National Big Data Institute: NBDi) ซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อนการวิเคราะห์ลบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศไทย ครอบคลุม 6 มิติสำคัญ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ การส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ ประสานให้เกิดการเชื่อมโยงของข้อมูลขนาดใหญ่ พัฒนาธุรกิจ อุตสาหกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ พัฒนาบุคลากรด้านข้อมูลขนาดใหญ่ และประสานความร่วมมือด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่
พร้อมมอบหมายให้ กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้งร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอผลการดำเนินงานแก่คณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกทั้งสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐเร่งยกระดับความสามารถข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เพื่อพัฒนาบริการแก่ประชาชน พลิกโฉมประเทศไทยด้วย Big Data
ที่ประชุมฯ ยังมีมติเห็นชอบให้จัดทำบัญชีบริการดิจิทัล พร้อมผลักดันบัญชีบริการดิจิทัลเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และมอบหมายให้ ดีป้า ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา พร้อมเห็นชอบให้ขับเคลื่อนบัญชีบริการดิจิทัลในภาคเอกชนและภาคประชาชนผ่านกลไกภาครัฐ อาทิ นโยบายภาษี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผู้ประกอบการดิจิทัลไทยในวงกว้าง โดยสั่งการให้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับบัญชี SMEs และบัญชีนวัตกรรม โดยให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบในหลักการ (ร่าง) กรอบแนวคิดแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) โดยมอบหมายให้ ดีป้า เร่งจัดทำรายละเอียดและแผนแม่บทฯ ระยะที่ 2 ฉบับสมบูรณ์ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ได้แก่ การสร้างอาชีพให้ประชาชน แก้ปัญหาความยากจน การแก้ไขปัญหาขาดแคลนกำลังคนดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่ใช้งานง่าย เท่าทัน และสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมากขึ้นให้ทัดเทียมประเทศอื่น ๆ เชื่อมโยงการค้าการลงทุน สร้างความเข้มแข็งทางดิจิทัล เพิ่มความเชื่อมั่น SMEs ใช้บริการดิจิทัลได้งานไม่โดนหลอก และการเร่งใช้ประโยชน์จาก Big Data เพิ่มศักยภาพธุรกิจ พร้อมเร่งหารือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยปฏิบัติและงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บท ก่อนนำเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
จากนั้น ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลการดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะประเทศไทย โดยมีการประกาศรับรองพื้นที่เมืองอัจฉริยะ จำนวน 15 พื้นที่ และมอบหมาย ดีป้า ผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ในประเทศไทยต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบเมืองเดิมน่าอยู่ และเมืองใหม่ทันสมัย เพื่อนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของภาคประชาชนในอนาคต

