นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายจุฬา สุขมานพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐบาล และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยมี นายสมชาย สุมนัสขจรกุล และนายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ให้การต้อนรับ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ได้ติดตามการดำเนินงานโครงการสำคัญของกรมเจ้าท่าในพื้นที่จังหวัดตรัง ดังนี้
1. โครงการจ้างก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลบริเวณร่องน้ำกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง สืบเนื่องจากจังหวัดตรังเป็นจังหวัดที่เชื่อมโยงกับฝั่งทะเลอันดามัน มีแม่น้ำตรัง ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางขนส่งทางน้ำเพื่อเชื่อมโยงกับหลายจังหวัดสร้างโอกาสของการเป็นศูนย์กลางการค้าฝั่งทะเลตะวันตก โดยมีร่องน้ำกันตังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของภาคการขนส่งทางน้ำที่สามารถส่งออกสินค้าจากท่าเรือที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ท่าเรือกันตัง ท่าเรือนาเกลือ ท่าเรือแสงทอง ท่าเรือยุโสบ ท่าเรือโชคชัย สู่ท่าเรือต่างประเทศ ภายใต้โครงการ IMT-GT หรือความร่วมมือระหว่างเศรษฐกิจ 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อพัฒนาการส่งออกสินค้าภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยร่องน้ำกันตังอยู่บริเวณปากแม่น้ำตรังเข้าสู่แม่น้ำด้านในรวมระยะทางร่องน้ำประมาณ 30.85 กิโลเมตร มีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 4 เมตร วัสดุพื้นท้องน้ำเป็นโคลน/ทราย มีอัตราการตกตะตอนสูงและพื้นท้องน้ำบางช่วง มีวัสดุเป็นหินทรายแข็งเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือขนาดใหญ่จำเป็นต้องขุดลอกบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี รวมถึงทุบหินที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือให้มีขนาดเป็นไปตามรูปแบบที่กรมเจ้าท่าได้ศึกษาออกแบบให้รองรับเรือได้ขนาดไม่น้อยกว่า 3,500 ตันกรอส ที่ความลึกร่องน้ำไม่น้อยกว่า 6.5 เมตร เพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ การเดินเรือมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตลอดเวลา อันจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จึงมอบให้กรมเจ้าท่าดำเนินการขุดลอก ร่องน้ำกันตัง เพื่อแก้ไขปัญหาความตื้นเขินและบำรุงรักษาร่องน้ำกันตังให้กลับสู่สภาพปกติ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเดินเรือ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งเชื่อมโยงกับท่าเรือน้ำลึกและการคมนาคมขนส่งด้านต่าง ๆ กรมเจ้าท่าจึงได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณกลางในปี 2565 จำนวน 162.40 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 10 เดือน เพื่อดำเนินการในระยะเร่งด่วนจ้างเหมาขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมีเป้าหมายขุดลอกร่องน้ำเนื้อดิน 1,350,000 ลูกบาศก์เมตร และหิน 50,000 ลูกบาศก์เมตร ให้เสร็จสมบูรณ์ตามแบบที่กำหนด โดยประชาชนในพื้นที่ได้มีความเห็น และข้อเสนอแนะโดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นร่องน้ำที่ทำให้บริการในด้านการพัฒนาโครงข่ายระบบการขนส่งเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามโครงการ IMT-GT เพื่อพัฒนาการส่งออกสินค้าภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอันดามันที่สามารถเชื่อมโยงกับเมืองท่าสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งมีผู้ประกอบการขนส่งที่อยู่ในร่องน้ำจำนวนมาก แต่ปัจจุบันร่องน้ำมีสภาพตื้นเขินเป็นอุปสรรคและส่งผลกระทบต่อการเดินเรือ ทั้งด้านความปลอดภัยและการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการต่าง ๆ ซึ่งการขุดลอกร่องน้ำกันตังจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางด้านการขนส่งให้กับผู้ประกอบการท่าเรือ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้กรมเจ้าท่าดำเนินการดังนี้
1) ผลักดันให้จังหวัดตรังเป็นจุดศูนย์กลางการส่งออกสินค้าทางเรือ เชื่อมโยงการส่งออกสินค้าทางเรือตามโครงการ IMT-GT
2) เห็นควรสนับสนุนงบประมาณเพื่อทำการขุดลอกร่องน้ำกันตังโดยเร่งด่วน
3) ในบริเวณที่ทิ้งวัสดุขุดลอกขอให้กรมเจ้าท่าพิจารณาติดตั้งม่านดักตะกอน (Silt Curtain) เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายตะกอน
2. โครงการก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นโครงการปรับปรุงท่าเรือเกาะสุกรให้มีความปลอดภัย มั่นคง แข็งแรง สะดวกและปลอดภัยเพื่อการขนส่งสินค้า การโดยสารและท่องเที่ยว โดยกรมเจ้าท่าได้ก่อสร้างท่าเรือเกาะสุกรแล้วเสร็จเมื่อปี 2537 และส่งมอบให้ อบต.เกาะสุกร บริหารท่าเทียบเรือเกาะสุกรมีลักษณะเป็นสะพานยื่นออกไปในทะเลระยะทาง 189.50 เมตร ท่าเรือกว้าง 10.50 เมตร ยาว 24.5 เมตร รวมความยาวสะพานและท่าเทียบเรือ 200 เมตร สามารถรับน้ำหนักบรรทุกรถยนต์บรรทุก 4 ล้อ ขนาดไม่เกิน 4 ตัน รับแรงท่าเรือโดยสารไม่เกิน 30 ตันกรอสได้ เป็นท่าเรือสาธารณะหลักที่รองรับสินค้า ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวจากฝั่งมายังเกาะสุกร ปัจจุบันมีความแออัดคับแคบ ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก การใช้งานไม่สะดวกปลอดภัย ทำให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเกาะสุกรได้รับความลำบาก อบต. เกาะสุกรจึงได้มีหนังสือขอให้กรมเจ้าท่าดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน กรมเจ้าท่าจึงได้เตรียมของบประมาณปี 2566 จำนวน 10 ล้านบาท และปี 2567 จำนวน 40 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงท่าเรือเกาะสุกร เมื่อโครงการปรับปรุงแล้วเสร็จจะส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการท่าเรือมีความสะดวก ปลอดภัย ส่งเสริมเศรษฐกิจและสภาพความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ อีกทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยว และระบบการคมนาคมขนส่งทางน้ำมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้กรมเจ้าท่าดำเนินการเพิ่มเติมดังนี้
1) สำรวจออกแบบปรับปรุงท่าเรือเกาะสุกรให้เป็นไปตามหลักวิชาการ มีความสวยงาม ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
2) ให้ขอรับงบประมาณก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือเกาะสุกรในปีงบประมาณ 2566
3) เร่งรัดดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้งานท่าเรือปัจจุบันเป็นสำคัญ
4) พิจารณาพัฒนาท่าเรือต่าง ๆ ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกันได้อย่างสะดวก ปลอดภัย เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
กระทรวงคมนาคม
15 พฤศจิกายน 2564