11 ทุ่งลุ่มต่ำเจ้าพระยา น้ำลดลงต่อเนื่อง “บิ๊กป้อม” ย้ำเร่งช่วยปชช. ในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังโดยเร็ว

กอนช. ชี้ภาพรวมใน 11 ทุ่งลุ่มต่ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดจากวานนี้อีก 71 ล้าน ลบ.ม. และยังคงเร่งระบายตามแผนให้เสร็จสิ้นภายในธันวาคมนี้ พร้อมเร่งบริหารจัดการน้ำในจุดที่ยังท่วมขัง ตามข้อสั่งการรองนายกฯประวิตรเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในทุ่งลุ่มต่ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้ง 11 แห่ง ภายหลัง กอนช. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากทุ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 พบว่าขณะนี้ทุ่งลุ่มต่ำทุกแห่งมีระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทุ่งที่ยังมีปริมาณน้ำเกินความจุ ได้แก่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งรับน้ำในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา ทุ่งป่าโมก และทุ่งผักไห่ โดยได้ประสานให้หน่วยงานเร่งระบายน้ำออกตามแผนให้ระดับน้ำลดลงโดยเร็ว คาดว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเดือน ธ.ค. 64 ตามข้อสั่งการของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. โดยปัจจุบันระบายน้ำออกจากทุ่งแล้ว 701 ล้าน ลบ.ม. คงเหลือปริมาณน้ำใน 11 ทุ่ง รวม 1,721 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 101% ของความจุทั้งหมดซึ่งลดลงจากวานนี้ (13 พ.ย. 64) รวม 71 ล้าน ลบ.ม. โดยในการระบายน้ำออกจะยังคงพิจารณากักเก็บน้ำส่วนหนึ่งไว้สำหรับเตรียมแปลงทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้งด้วย นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยให้พ้นจากความเดือดร้อน โดย กอนช. จะมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัดด้วย

ทั้งนี้ กอนช. ประเมินสถานการณ์น้ำปัจจุบันในทุ่งลุ่มต่ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แบบรายทุ่ง พบว่า มีทุ่งที่จะระบายน้ำออกเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ (พ.ย. 64) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ทุ่งท่าวุ้ง มีปริมาณน้ำ 40 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 48% ของความจุ ทุ่งบางกุ่มมีปริมาณน้ำ 88 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 68% ของความจุ ทุ่งบางบาล-บ้านแพน มีปริมาณน้ำ 85 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 80%ของความจุ ทุ่งบางระกำ มีปริมาณน้ำ 198 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 50% ของความจุ และมีทุ่งที่จะระบายน้ำออกเสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค. 64 จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ทุ่งเชียงราก มีปริมาณน้ำ 73 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 92% ของความจุ ทุ่งบางกุ้ง มีปริมาณน้ำ32 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 118% ของความจุ ทุ่งป่าโมก มีปริมาณน้ำ 60 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 120% ของความจุทุ่งผักไห่ มีปริมาณน้ำ 280 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 140% ของความจุ ทุ่งเจ้าเจ็ด มีปริมาณน้ำ 686 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 196% ของความจุ ทุ่งรับน้ำในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา มีปริมาณน้ำ 172 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 107% ของความจุ ในขณะที่ ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเริ่มทำการเกษตรได้แล้ว

“จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา สามารถใช้ทุ่งลุ่มต่ำในการตัดยอดน้ำหลากในปริมาณสูงสุดถึง 2,422 ล้าน ลบ.ม. โดยปัจจุบันได้เร่งระบายน้ำ เพื่อให้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ตามข้อสั่งการรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังเหลือปริมาณน้ำที่ต้องระบายออกจากทุ่งอีก 1,261 ล้าน ลบ.ม. โดยตามแผนที่วางไว้ การระบายจะสิ้นสุดภายในวันที่ 22 ธ.ค. 64 โดยจะเหลือปริมาณน้ำในทุ่ง 460 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการเริ่มทำนาในช่วงฤดูแล้งนี้” ดร.สุรสีห์ กล่าว

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ/14 พฤศจิกายน 2564