วันที่ 9 พ.ย.64 เวลา 09.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ปรับสถานศึกษาให้เป็นโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักตัว และศูนย์พักคอย ให้แก่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเป็นค่าสาธารณูปโภค ค่าซ่อมแซม ปรับปรุงอาคาร ให้คืนสู่สภาพเดิม เพื่อจัดการเรียนการสอน หลังจากภารกิจเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่กักตัว หรือศูนย์พักคอยแล้วเสร็จสิ้นสุดลง ซึ่งในการนี้ นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเชิญถุงเงินพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 12 โรงเรียน จำนวนเงินทั้งสิ้น 752,250 บาท
แบ่งเป็นสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 จำนวน 7 แห่ง เป็นเงิน 325,450 บาท และสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 แห่ง เป็นเงิน 426,800 บาท ณ ห้องประชุมสิริชัยมงคล โรงเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล (ภาวนารังสี) อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางกัลยา มาลัย ผู้อำนวยการ สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พร้อมด้วยผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู อาจารย์ เข้าร่วมพิธี
โอกาสนี้ นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด)ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะอยู่ในประเทศไทยไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ถุงยังชีพ และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อีกทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ในการปรับสถานศึกษาให้เป็นโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักตัว หรือศูนย์พักคอย ให้แก่ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ โดยสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับเงินพระราชทาน จำนวน 12 แห่ง เป็นเงิน 752,250 บาท เพื่อเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยบรรเทาทุกข์ เป็นที่พึ่งพิง เป็นขวัญกำลังใจ และฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาล้วนซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม โดยจะขอสืบสานพระราชปณิธานยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม รักษาชาติบ้านเมือง และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติต่อไป