+ บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้
+ แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 61,474 ล้าน ลบ.ม. (75%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 54,347 ล้าน ลบ.ม. (76%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 17 แห่ง (บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างฯ แม่มอก อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน อ่างฯ ทับเสลา อ่างฯ ป่าสักชลสิทธิ์ อ่างฯ กระเสียว อ่างฯ อุบลรัตน์ อ่างฯ จุฬาภรณ์ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน อ่างฯ ลำนางรอง อ่างฯ ลำแซะ อ่างฯ ขุนด่านปราการชล อ่างฯ นฤบดินทรจินดา และอ่างฯ หนองปลาไหล)
+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 64 มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 ตามที่ สทนช. เสนอ รวม 9 มาตรการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนของพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้
– ให้ สทนช. เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยใช้กลไกคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดในการปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์
– ตรวจสอบระบบชลประทานให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้เต็มศักยภาพตามสถานการณ์น้ำที่เป็นจริงในแต่ละช่วงเวลา
– ทุกหน่วยเกี่ยวข้องซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักรกลต่าง ๆ
– บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบพื้นที่ชุมชน พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจและเส้นทางคมนาคม รวมทั้งเร่งกำจัดวัชพืช ขยะ สิ่งกีดขวางทางน้ำ และเร่งดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัดให้เกิดความพร้อมสูงสุด
– วางแผนและกำหนดมาตรการเชิงป้องกัน ในฤดูฝนปี 2565 ให้แล้วเสร็จก่อนเดือน ก.พ. 65