รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานการประชุมตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และมอบนโยบายรวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายชาตรี บุญนาค ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เขต 18 ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมและรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ณ ห้องประชุมสะแกกรัง ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ว่า จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำและในพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี ส่งผลให้เกิดอุทกภัยมีปริมาณน้ำไหลล้นตลิ่งจากลำน้ำแม่วงก์ ลำน้ำคลองโพ อ่างเก็บน้ำทับเสลา และแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ใน 8 อำเภอ ซึ่งจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว รวมทั้งจากอิทธิพลของพายุไลออนล็อค และพายุคมปาซุ ระหว่างวันที่ 17 – 20 ต.ค.64 (ฝนเริ่มตกวันที่ 14 ต.ค.64) ส่งผลทำให้น้ำเกินความจุที่ระดับเก็บกัก จนเกิดน้ำล้นอ่างเก็บน้ำทับเสลาไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร พื้นที่เสียหายอยู่ระหว่างเร่งรัดสำรวจความเสียหายเพื่อรายงานให้จังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ระดมสรรพกำลัง บูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานจังหวัด เร่งช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ปศุสัตว์จังหวัดมอบเสบียงอาหารสัตว์ หญ้าอาหารสัตว์ และถุงยังชีพสัตว์ ประมงจังหวัดดำเนินการเคลื่อนย้ายจระเข้จากฟาร์มและเข้าตรวจสอบกระชังเลี้ยงปลาที่ได้รับผลกระทบนอกจากนี้ สำนักชลประทานจังหวัดอุทัยธานีได้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยควบคุมการระบายน้ำให้เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุทกภัยส่งผลกระทบต่อภาคเกษตร ดังนี้ ด้านพืช พื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 13,153 ครัวเรือน พื้นที่ 187,549 ไร่ ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 440 ราย สัตว์ที่ต้องอพยพ 18,678 ตัว ด้านประมง พื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 752 ราย พื้นที่เสียหาย 895.96 ไร่
“หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกับจังหวัดเข้าให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้อง และเร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนระดับน้ำให้ทันท่วงที พื้นที่ไหนที่ต้องซ่อมแซมก็ให้ดำเนินการเร่งด่วน รวมทั้งทำความเข้าใจกับเกษตรกรในเรื่องของหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ซึ่งตนจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีฯ รับทราบ ต่อไป” รมช.มนัญญา กล่าว