“วราวุธ” ตรวจเยี่ยมพื้นที่โขดปอ จ.ระยอง ยกเป็นต้นแบบจัดการขยะครบวงจร พร้อมแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการป่าในเมือง “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง” ที่จับมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนจัดทำพื้นที่สาธิตการบริหารจัดการขยะทะเลครบวงจรอย่างมีส่วนร่วม รวมถึงเยี่ยมชมการดำเนินการสร้างเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน นวัตกรรมบล็อกปูพื้นคอนกรีตพลาสติกใช้แล้ว และเยี่ยมชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน พร้อมปล่อย พ่อ-แม่พันธุ์ปลาตีน บริเวณพื้นที่สาธิตอนุรักษ์ปลาตีน โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และคณะผู้บริหาร ทส. เข้าร่วม ณ โครงการ “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง” จังหวัดระยอง

นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า นับจากวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ที่ได้เปิดพื้นที่สาธิต ก็ได้ติดตามการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้เห็นถึงความสำเร็จและรู้สึกชื่นชม ซึ่งขอขอบคุณทุกภาคส่วนและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมแรงร่วมใจจนพื้นที่ดังกล่าวสามารถยกเป็นพื้นที่ต้นแบบในการบูรณาการการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะแบบครบวงจรได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างป่าชายเลน ทะเล และชุมชน ที่สามารถอยู่กันได้อย่างสันติ ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่สร้างปัญหาหรือผลกระทบต่อกัน

“มนุษย์และธรรมชาติไม่สามารถแยกออกจากกันได้ การกระทำหรือการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์และธรรมชาติจะส่งผลกระทบถึงกันโดยตรง ขยะที่เกิดจากมนุษย์ย่อมส่งผลถึงธรรมชาติ ความเสื่อมโทรมของธรรมชาติย่อมส่งผลเสียต่อมนุษย์ มนุษย์คนเดียวดูแลป่าชายเลนและทะเลไม่ได้ แต่ความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะช่วยให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่กับเราได้อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน และในปีนี้ กระทรวงฯ ได้ยกระดับการทำงานเป็น ทส. ยกกำลังเอ็กซ์ โดยจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนมากกว่าที่ผ่านมาอย่างสุดกำลังความสามารถ และจะยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้มากที่สุด” นายวราวุธ กล่าว

นอกจากนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศว่า “จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ส่งผลให้พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ประสบกับความเดือดร้อน และความยากลำบาก ซึ่งกระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เตรียมความพร้อมและเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ทั้งการสนับสนุนเครื่องจักร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสูบน้ำ หรือเรือ และกำลังเจ้าหน้าที่ ในการช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็น รวมถึงสนับสนุนน้ำสะอาดและน้ำดื่มให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น”

“ทั้งยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย เฝ้าระวังพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นเวลานานเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำเน่าเสียจากภาวะน้ำท่วมขัง และเข้าแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนเพิ่มเติม รวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าช่วยเหลือในภาวะหลังน้ำลดต่อไปด้วย” นายวราวุธกล่าวทิ้งท้าย

สำหรับความร่วมมือโครงการป่าในเมือง “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง” ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินงานตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 นั้น ได้แก่ โมเดลศูนย์เรียนรู้ครบวงจรด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าชายเลน การจัดการขยะ และขยะทะเล การส่งเสริมการคัดแยกขยะต้นทางในครัวเรือน โดย SCG Chemical การจัดการขยะปลายทางโดยใช้นวัตกรรม Litter trap การคิดค้นเรือถีบเก็บขยะ ของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคระยองและกลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำระยองป่าชายเลน นวัตกรรม River Plastic Trap การติดตั้งตาข่ายดักปากท่อ และทุ่นกันขยะ รวมถึงการดำเนินการพื้นที่สาธิตโครงการชายหาดปลอดบุหรี่ ซึ่งจะยกพื้นที่แห่งนี้เป็นต้นแบบเตรียมขยายสู่พื้นที่อื่น เพื่อจัดการปัญหาขยะอย่างยั่งยืนต่อไป