วันที่ 5 ต.ค. 64 นายไกวัลย์ โรจนานุกูล นายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายวิศว์ รัตนโชติ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านบำรุงรักษาทางและสะพาน) นายชูชัย พนัสอัมพร ผู้อำนวยการสำนักบำรุงทาง นายทินกร คุณสมิตปัญญา รักษาการวิศวกรโยธาเชี่ยวชาญสำนักบำรุงทาง นายธนิต วิทยเมธ ผู้อำนวยการกลุ่มบำรุงทาง สำนักบำรุงทาง และคณะ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย เพื่อติดตามสถานการณ์สายทางที่ได้รับผลกระทบ ณ ศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลาง) โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบท ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท และผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบท ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมประชุมสรุปผลการดำเนินงาน ผ่านระบบสื่ออิเลคทรอนิกส์ (Zoom Cloud Meeting)
ปัจจุบันถนนทางหลวงชนบทที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ลพบุรี, สิงห์บุรี, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, เลย, นครสวรรค์, อุทัยธานี, สุโขทัย และสระแก้ว รวม 56 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 27 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 29 สายทาง แบ่งเป็น น้ำท่วมสูง 22 สายทาง (22 แห่ง) ทางขาด/โครงสร้างทางชำรุด/กัดเซาะ 3 สายทาง (3 แห่ง) สะพานขาด/คอสะพานขาด/ทรุดตัว 4 สายทาง (4 แห่ง)
ในการนี้รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้เน้นย้ำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมสูง ให้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ หากเกิดเหตุพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที
ทั้งนี้สำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ประสบภัย ได้ติดตั้งป้ายเตือนห้ามผ่านทาง และดำเนินการติดตั้งสะพานเบลีย์ให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ชั่วคราว รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงชนบทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป ประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยหรือสอบถามเส้นทางได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146