วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยาในการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย และการดูแลด้านการเดินเรือในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนาวาโท รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 รายงานผลการปฏิบัติงาน
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรณีเรือลากจูงที่จมบริเวณแม่น้ำป่าสัก ใกล้วัดพนัญเชิงฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมเจ้าท่ามีหน้าที่ในการกำกับดูแล ความปลอดภัยในการเดินเรือ ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านความปลอดภัยในฐานะกำกับดูแลได้อำนวยการด้านการกู้เรือ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 แต่ด้วยกระแสน้ำเชี่ยวและมีกระแสน้ำวน เนื่องจากเป็นจุดที่กระแสน้ำไหลจากทางเหนือของแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสักมาเจอกัน และที่ตำแหน่งเรือจมในปัจจุบันมีน้ำลึกประมาณ 23 เมตร ทำให้การกู้เรือขึ้นมายังกระทำได้ยาก ในส่วนด้านความปลอดภัย กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 204/2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ ในช่วงระดับน้ำสูงกว่าปกติ ลงวันที่ 21 กันยายน 2564 กำหนดเพื่อควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลองต่าง ๆ ในเขตจังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ในช่วงระดับน้ำสูงกว่าปกติ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และลดความเร็วเรือ ป้องกันคลื่นจากการเดินเรือ สร้างความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน หรือทรัพย์สินของประชาชน
นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้ตรวจเยี่ยมห้องควบคุมกล้องวงจรปิดสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและการเชื่อมต่อสัญญาณ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการขนถ่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย สำหรับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสักมีระดับสูงและมีการขนส่งทางน้ำ เรือลำเลียง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ได้มีประกาศที่ 13/2564 ลงวันที่ 29 กันยายน 2564 ให้ลดระยะพ่วงจูงพ่วงละไม่เกิน 3 ลำ เพื่อความปลอดภัยต่อการเดินเรือ และการขนส่งทางน้ำไปยังเรือแม่ที่เกาะสีชัง มิให้เกิดส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ โดยกรมเจ้าท่าได้จัดหน่วยออกตรวจตราไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกิน ใช้ระบบกล้อง CCTV ในการเฝ้าระวังตรวจตรา ควบคุมความเร็วไม่ให้ใช้ความเร็วเกินกำหนด รวมทั้งประชาสัมพันธ์กับเรือที่ให้บริการให้ปฎิบัติตามคำสั่งกรมเจ้าท่าอย่างเคร่งครัด พร้อมจัดชุดออกปฏิบัติการช่วยเหลือต่อไป
———————————————