บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน
– ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานีชัยนาท นครสวรรค์ และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำเพราะจะทําให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ
เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำสําหรับเกษตรกรที่ปลูกพริกควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราเช่น โรคเน่าเปียก
– กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ในช่วงนี้ ประเทศไทยอยู่ในช่วงของฤดูฝน
ทำให้การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อย
– ภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่งเกษตรกรควรทําทางระบายน้ําออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อไม่ให้น้ําท่วมขัง สําหรับเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้
คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรภาพรวมสภาพอากาศในวันนี้บริเวณภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ในหน้าฝนนี้ อย่าลืม พกร่ม หรือเสื้อกันฝนออกไปด้วย
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th แอปพลิเคชั่น thai weather Facebook youtube Channel twitter กรมอุตุนิยมวิทยาและ สถานีวิทยุกระจายเสียง ของกรมอุตุนิยมวิทยา
” อุตุนิยมวิทยายุคใหม่ แจ้งข่าวฉับไว ใส่ใจปวงชน”