ฝนหลวงฯ ติดตามและประเมินสถานการณ์ เพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ยังต้องการน้ำโดยหลีกเลี่ยงพื้นที่ประสบอุทกภัย

วันที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. นางนรีลักษณ์ วรรณสาย รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดของประเทศไทย เนื่องจากได้รับอิทธิพลของพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ที่ผ่านมา โดยมีรายงานข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยล่าสุด พบว่า มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจำนวน 27 จังหวัด สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงเหลืออีก 23 จังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ซึ่งทางหน่วยงานราชการได้มีการเข้าไปช่วยเหลือโดยการเร่งระบายน้ำ และเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนอย่างระมัดระวังเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ยังมีความต้องการน้ำและขอรับบริการฝนหลวงเข้ามา โดยไม่ทำให้พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมได้รับผลกระทบ เช่น ในช่วงที่ได้รับอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ได้มีการงดการปฏิบัติการฝนหลวง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีพื้นที่การเกษตรที่เป็นพื้นที่ไร่หรือนาดอนบางพื้นที่ ที่พืชยังอยู่ในระยะที่ต้องการน้ำ และเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทางภาคเหนือที่มีปริมาณน้ำน้อย ยังมีความต้องการน้ำเพื่อเป็นน้ำต้นทุนไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้งที่จะมาถึง ซึ่งทางกรมฝนหลวงฯ จะนำข้อมูลเชิงพื้นที่มาวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงให้ตรงกับพื้นที่เป้าหมาย และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง สำหรับเมื่อวานนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรทั้ง 12 หน่วยฯ ไม่ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่การเกษตร น้ำเก็บกักในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ และสภาพอากาศไม่เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง

ในส่วนการติดตามสภาพอากาศ จากข้อมูลแผนที่อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เวลา 01.00 น. พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และด้านรับลมมรสุมคือบริเวณทางตะวันตกของภาคเหนือ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งในเช้าวันนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯ จ. พิษณุโลก อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา ระยอง ไม่มีแผนบินปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และหน่วยฯ จ. กาญจนบุรีและลพบุรี ไม่มีแผนบินปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสังเกตอาการหลังจากรับวัคซีนโควิด-19 ส่วนอีก 5 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯ จ. เชียงใหม่ ตาก ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ จะมีการติดตามสภาพอากาศ หากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำต่อไป โดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เสี่ยงที่มีน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง ให้ข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นเพื่อใช้ประกอบการวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวง รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสาร
ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
*************************