วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงเน้นปฏิบัติการฝนหลวง 2 ภารกิจสำคัญ คือ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับใช้การ และช่วยเหลือพื้นที่เขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยกว่าเกณฑ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว แต่ในหลายพื้นที่ยังมีปริมาณฝนตกค่อนข้างน้อยและไม่กระจายตัว ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะเร่งปฏิบัติการ 2 ภารกิจดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำให้มากที่สุดก่อนหมดฤดูฝนในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ โดยเมื่อวานนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ พบว่า ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรของจ.พะเยา ลำปาง ลำพูน กำแพงเพชร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 4 แห่ง และอ่างเก็บน้ำ จำนวน 6 แห่ง
ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการปฏิบัติการฝนหลวงในวันนี้ พบว่าจากแผนที่อากาศผิวพื้น ณ เวลา 01.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ได้สลายตัวลงไปแล้ว ทำให้ไม่มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ส่งผลต่อประเทศไทย แต่ยังมีอิทธิพลจากความกดอากาศสูงจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามาทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ลักษณะดังกล่าวนี้ จะส่งผลให้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศที่ส่งผลต่อการปฏิบัติการฝนหลวงลดลงไปในระดับหนึ่ง ทำให้ในระยะ 3-4 วันนี้ ประเทศไทยจะมีฝนลดลง อย่างไรก็ตาม ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะติดตามสภาพอากาศและวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือเสริมฝนธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
โดยในวันนี้ จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่
- หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชรพื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.เพชรบูรณ์
- หน่วยฯ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างฯกระเสียว ห้วยเทียน เขื่อนศรีนครินทร์
- หน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ลพบุรี จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.สระบุรี จ.อ่างทอง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างฯในพื้นที่ภาคกลาง
- หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.อุดรธานี จ.หนองบัวลำภู และพื้นที่รับน้ำเขื่อนห้วยหลวง
- หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ
- หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ จ.ร้อยเอ็ดจ.มหาสารคาม พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์
- หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.ชัยภูมิ
- หน่วยฯ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมาย : พื้นที่การเกษตรและอ่างเก็บน้ำ จ.ประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 4 หน่วยปฏิบัติการ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที และอีก 1 หน่วยปฏิบัติการ คือ หน่วยฯ จ.ตาก ไม่มีการบินปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากเนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 เข็มที่ 2 ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
*************************
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
18 สิงหาคม 2564