ชป.เร่งระบายน้ำช่วยชาวหนองเจริญ จ.อุตรดิตถ์ พร้อมปรับแบบคลองระบายน้ำใหม่ลดอุทกภัยระยะยาว

กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีการร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.ท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ว่าชาวบ้านหนองเจริญเกือบทั้งหมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนร้อนจากการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ นั้น

นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ชี้แจงกรณีนี้ว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าว เป็นการก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งซ้าย โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มก่อสร้างเดือนมีนาคม 2558 แต่เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาเพิ่มเติม จึงจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีผลงานคืบหน้าไปแแล้ว 81 % คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาจ้าง และสามารถส่งมอบให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผาจุก เพื่อส่งน้ำให้ประชาชนได้ใช้ในการเกษตร และการอุปโภคบริโภคตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป จึงไม่เข้าข่ายการทิ้งงานแต่อย่างใดเนื่องจากยังไม่สิ้นสุดสัญญา

สำหรับพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าวอยู่ในช่วง กม.45+800 ถึงประมาณ กม.46+500 ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ซึ่งบริเวณดังกล่าวตามแบบก่อสร้างมีท่อลอดคลองส่งน้ำชนิดท่อกลม จำนวน 1 แห่ง ที่ กม.46+147.550 เส้นผ่าศูนย์กลางท่อ ขนาด 1.20 ม. จำนวน 1 แถว ความสามารถในการระบายน้ำ 1.413 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากเกิดฝนตกชุกติดต่อกันเฉลี่ยประมาณ 100 มิลลิเมตร ตั้งแต่วันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมวลน้ำได้ไหลบ่ามาจากเขาพระนางมัทรีด้านตะวันออกของคลองส่งน้ำ เข้าท่วมเป็นพื้นที่ประมาณ 950 ไร่ นับเป็นอุทกภัยครั้งแรกตั้งแต่ดำเนินการก่อสร้างมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปี

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกับนายอำเภอพิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนายาง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์พื้นที่เขตอำเภอพิชัย กำนันผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นการเร่งด่วน ในเบื้องต้นกรมชลประทานได้ร่วมกับผู้รับจ้างดำเนินการใช้รถแบ็คโฮขุดทลายคันคลองส่งน้ำ ที่ดาดคอนกรีตแล้วเสร็จ เพื่อระบายน้ำบางส่วนลงไปกักเก็บไว้ภายในคลองส่งน้ำ ส่วนปริมาณน้ำที่อยู่สูงกว่าระดับเก็บกักในคลองจะไหลผ่านไปยังอีกฝั่งของคลองส่งน้ำผ่านท่อลอดคลองส่งน้ำที่ กม.46+147.550 ก่อนจะกระจายไปยังพื้นที่การเกษตรฝั่งตะวันตกต่อไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีร่องน้ำธรรมชาติแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคในการการระบายน้ำ แม้ว่าน้ำจากพื้นที่ฝั่งซ้ายจะไหลไปยังฝั่งขวาของคลองส่งน้ำได้แล้ว แต่ยังติดปัญหาถนนกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลมาท่วมพื้นที่การเกษตรในบริเวณที่มีถนนขวางอยู่ ปัญหาดังกล่าวนายอำเภอพิชัยและผู้นำในท้องที่ได้ลงพื้นที่รับทราบปัญหาและจะเร่งดำเนินการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วต่อไป

“เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้หารือกับสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม เพื่อให้การออกแบบอาคารประกอบในการระบายน้ำสอดคล้องกับปริมาณน้ำในบริเวณดังกล่าวให้มากที่สุด รวมไปถึงงานก่อสร้างระบบส่งน้ำสายซอยและระบบระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบพื้นที่ฝั่งซ้าย ที่จะดำเนินการในปี 2566 ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุกและระบบส่งน้ำ สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่” นายเสริมชัยฯ กล่าวในตอนท้าย

กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

30 กรกฎาคม 2564