แรงงานจังหวัดพะเยา จัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบตำบลงิม อำเภอปง และตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ส่งเสริมขยายโอกาสการประกอบอาชีพ บริการข้อมูลข่าวสารด้านแรงงาน รับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน ให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงบริการภาครัฐได้ง่ายและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
วันที่ 17 มิถุนายน 2564 เวลา 09.30 น. นางรภัสสา พานิกุล แรงงานจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดพะเยา ลงพื้นที่ ณ บ้านเลขที่ 295 ม.4 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา เพื่อจัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ โดยมี นางกัญญาณัฐ ศรีใจ นายกเทศมนตรีตำบลงิม และผู้บริหารเทศบาลตำบลงิม ที่ปรึกษาหน่วยบริการฯ และนางสุดสาคร วงศ์แก้ว ประธานหน่วยบริการพร้อมด้วยคณะกรรมการประจำหน่วยบริการฯ รวมทั้งสิ้น 16 คน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ แนวทางและแผนการดำเนินงาน รวมทั้งมอบป้ายหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบตำบลงิมอีกด้วย
วันเดียวกันในช่วงบ่าย แรงงานจังหวัดพะเยา และคณะ ยังได้ลงพื้นที่จัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ ณ สถาบันการจัดการเงินทุนชุมชนบ้านสันปูเลย ม.8 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยมี นางเพ็ญศรี ชื่นวงศ์ ประธานหน่วยบริการ พร้อมด้วยคณะกรรมการหน่วยบริการ จำนวน 8 คน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ แนวทางและแผนการดำเนินงาน และมอบป้ายหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบตำบลอ่างทอง ทั้งนี้ การจัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ โดยให้หน่วยบริการมีหน้าที่ในการส่งเสริมและขยายโอกาสในการประกอบอาชีพ การบริการข้อมูลข่าวสารด้านแรงงาน การรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียนของแรงงานนอกระบบ เพื่อให้แรงงานนอกระบบสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้ง่ายและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
“การจัดตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบในวันนี้ เป็นไปตามแผนการดำเนินงานของจังหวัดพะเยาที่จะตั้งหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบให้ครบจำนวน 7 หน่วยบริการ ในพื้นที่ อ.เมืองพะเยา อ.แม่ใจ อ.ดอกคำใต้ อ.จุน อ.เชียงม่วน อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ โดยให้อาสาสมัครแรงงานและเครือข่ายแรงงานนอกระบบในพื้นที่เป็นกลไกในการประสานดำเนินงาน เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้เข้าถึงบริการด้านแรงงาน มีอาชีพ มีรายได้ ได้รับการคุ้มครอง มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิตต่อไป” นางรภัสสา กล่าวในท้ายสุด