กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ขอชี้แจงผู้ใช้เฟสบุ๊ค โพสต์ข้อความ กรณีน้องก้อย ร่วมกับ พ่อและแม่ ลักทรัพย์ หญิงไก่ ราคาหลายสิบล้านบาท แล้วหลบหนี

สืบเนื่องจาก นางสาวประภาวรรณ หรือ (น้องก้อย ) ได้ถูกคุมขังในชั้นสอบสวน เป็นเวลา 3 เดือน และอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

ซี่งกรณีนี้ นางสาวประภาวรรณ หรือ (น้องก้อย ) ไม่ได้เป็นจำเลยที่ศาลถึงที่สุดตัดสินยกฟ้องว่ามิได้เป็นผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 แต่เป็นผู้ต้องหา จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย ตามกฎหมายดังกล่าวในฐานะที่ตกเป็นแพะในคดีอาญาแต่อย่างใด

ในการนี้ จำเลยที่มีสิทธิจะได้รับค่าทดแทนฯ ดังกล่าว จะต้องเป็นจำเลยที่ถูกดำเนินคดีโดยพนักงานอัยการ และถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี รวมถึงปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิด และมีการถอนฟ้องในระหว่างดำเนินคดี หรือ ปรากฏตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดในคดีนั้นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด จึงจะได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ

แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรม ได้เคยให้ความช่วยเหลือคดีดังกล่าวในการปล่อยชั่วคราว พร้อมพ่อและแม่ เพื่อให้มีโอกาสออกมาต่อสู้คดีนอกเรือนจำ และเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 กระทรวงยุติธรรมได้ร่วมรับเรื่องร้องทุกข์ ผ่านรายการ หมอความ (มหาชน) ช่อง Nation.ระวังภัย ของทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้รับเรื่องไว้เพื่อหาหนทางให้ความช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ ต่อไป