จากกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ ว่า “กรรมการว่าด้วยสัญญาท่านหนึ่งได้ร่วมแถลงข่าว เกี่ยวกับผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มผสมวิตามินซี และต่อมามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ขอให้สคบ. พิจารณาการทำหน้าที่ของกรรมการว่าด้วยสัญญาที่ร่วมแถลงข่าว และเรียกร้องให้ สคบ.หยุดเป็นเครื่องมือ
ของผู้ประกอบการ” นั้น นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษก สคบ. ขอชี้แจง
ในประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
1.สคบ. เป็นหน่วยงานในการคุ้มครองผู้บริโภคมีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ สคบ. จะดำเนินการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคให้ได้รับการเยียวยา หรือได้รับชดใช้ค่าเสียหาย และหากพบว่าผู้ประกอบธุรกิจ ไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภค ก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบธุรกิจสคบ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย มิได้เป็นเครื่องมือให้แก่ฝ่ายใด
2.การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องดื่ม เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
3.กรณีกรรมการว่าด้วยสัญญาท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคณะกรรมการเฉพาะเรื่องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้ร่วมแถลงข่าวและให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีเครื่องดื่มผสมวิตามินซี เป็นเพียงการให้ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สคบ. แต่อย่างใด
4.สคบ. ขอแนะนำผู้บริโภค ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ควรศึกษาข้อมูล รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับตัวสินค้าหรือบริการอย่างรอบคอบ โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลจากของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หากผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้สินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ช่องทางร้องทุกข์ และติดตามสถานะตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค ของ สคบ.