นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวในงานวันคุ้มครองสัตว์ป่า ณ อาคาร สืบ นาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวไทย ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัด พิจารณาของขวัญที่น่าสนใจที่มี Impact และเป็นของขวัญสำหรับให้บริการกับประชาชน ประกอบด้วยด้านที่ดิน ป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ และด้านสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ที่มีหน่วยปฏิบัติงานภาคสนามที่คลอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและใกล้ชิดกับประชาชน เช่น บริเวณอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือ สวนพฤกษศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีข้อสั่งการให้ หน่วยงานภาคสนามในส่วนภูมิภาคภายใต้สังกัดทุกแห่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณเส้นทางสัญจร ที่มีนักท่องเที่ยวที่สัญจรเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้จัดสถานที่ Rest Area หรือจุดแวะพัก โดยให้มีการเตรียมการ ในด้านสถานที่จัดจอดยานพาหนะทุกประเภท ตกแต่งสถานที่อาคารสำนักงาน เพื่อเป็นมุมพักผ่อน ให้กับประชาชน บริการ เครื่องดื่ม กาแฟ โดยมีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ จุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ในส่วนของการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวแหล่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุทยานแห่งชาตินั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยการงดเว้นค่าบริการเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ วันที่ 1 มกราคม 2564 อีกทั้งได้มีการพัฒนาระบบการท่องเที่ยวเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ได้แก่ การจัดทำระบบการจองและจ่ายผ่านระบบอิเลคทรอนิกส์ หรือ E-Ticket โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในการจัดเก็บจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ปปช.และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งจะกำหนดเปิดใช้งานระบบฯ ในอุทยานแห่งชาตินำร่อง จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติทางบก จำนวน 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีก จำนวน 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามระเบียบพัสดุ คาดว่าระบบจะสามารถจะให้บริการได้ในราวต้นปี 2564 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปจองและจ่าย โดยชำระเงินและรับบัตรค่าบริการในระบบออนไลน์ เพื่อเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้อย่างสะดวกสบาย และผลพวงที่พลอยได้จากการพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วในครั้งนี้ นั่นคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะสามารถควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ตามจำนวนขีดความสามารถในการรองรับได้ด้านนันทนาการและการท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่ง ซึ่งส่งผลถึงความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
ในขณะที่ระบบ E-Ticket เป็นเรื่องของการจองและจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าให้กับนักท่องเที่ยว โดยในข้อเท็จจริงในลักษณะและพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วไป ส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มิได้เตรียมการหรือวางแผนล่วงหน้า และจะเข้าไปซื้อบัตรบริการเข้า ณ ด่านเก็บเงินของอุทยานฯ ในส่วนของนักท่องเที่ยวประเภทนี้ ในระหว่างที่กำลังพัฒนาระบบการจองและจ่ายล่วงหน้า ซึ่งกำหนดยอดผู้จองไว้ที่ร้อยละ 80 นั้น จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรค่าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ ได้อีกร้อยละ 20 โดยจะทดลองให้มีการซื้อบัตรผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ ด้วยตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติ (KIOSK) ซึ่งได้จัดเตรียมเครื่องจำหน่ายบัตรค่าบริการอัตโนมัติ (KIOSK) จำนวน 34 เครื่อง ในอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง ได้แก่ 1) อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว 2) อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 3) อุทยานแห่งชาติเขาสก 4) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 5) อุทยานแห่งชาติผาแต้ม 6) อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 7) อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 8) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 9) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10) อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เพื่อทดสอบระบบให้สามารถเปิดใช้งานในต้นปีหน้า ซึ่งหากได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจะขยายผลไปสู่อุทยานแห่งชาติอื่น ๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
…………………………………………….