ปลัด พม. ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางประสบภัยน้ำท่วม

วันที่ 10 ธ.ค. 63 เวลา 09.30 น.นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และนางสาวนริศา อดิเทพวรพันธุ์ ประจำสำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยตนเป็นประธานเปิดโครงการ มหกรรม พม. เคลื่อนที่สร้างสุขสู่ชุมชน ณ เทศบาลตำบลปากนคร อำเภอเมือง ซึ่งมีนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จากนั้น ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน  100 ครอบครัว เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 98 ราย รถสามล้อชนิดโยกสำหรับคนพิการ จำนวน 8 คัน เงินซ่อมแซมบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ และอาหารปรุงสุก สด สะอาด จำนวน 500 กล่อง นอกจากนี้ ทีม พม. One Home จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันออกหน่วยบริการเคลื่อนที่สำหรับประชาชนในพื้นที่ ได้แก่ การให้คำปรึกษาแก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม การสาธิตอาชีพ การบริการซ่อมจักรยานยนต์ การบริการตัดผมฟรี กิจกรรมเรียนรู้สำหรับเด็ก และการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด

นางพัชรี กล่าวว่า ด้วย รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการทุกหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งรวดเร็ว สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ขณะนี้ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งชีวิตและทรัพย์สินในทุกพื้นที่จำนวน 23 อำเภอ โดยมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 919,003 คน 323,536 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 21 ราย อีกทั้งมีบ้านที่พังเสียหายบางส่วน จำนวน 4,216 หลัง และบ้านพังเสียหายทั้งหลัง จำนวน 29 หลัง ทั้งนี้ กระทรวง พม. จึงเร่งดำเนินภารกิจตามแผนการฟื้นฟูและพัฒนาผู้ประสบอุทกภัย 4 ด้าน คือ 1) ด้านชีวิต ด้วยการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นต้น 2) ด้านที่อยู่อาศัย ด้วยการช่วยหลือปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ 3) ด้านอาชีพ ด้วยการฟื้นฟูผู้ประสบภัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว และ 4) ด้านสาธารณประโยชน์ ด้วยการพื้นฟูวิถีชุมชนและสภาพแวดล้อมของผู้ประสบภัย โดยทำความสะอาดบ้าน วัด มัสยิด และโรงเรียน รวมทั้งการประสานให้ความช่วยเหลือร่วมกับภาคเอกชน

นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมหรือประสบภัยพิบัติต่างๆ สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยตนเองได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด