ดีอีเอส จัด “Gov Cloud 2020” ชูศักยภาพคลาวด์กลางภาครัฐ ขับเคลื่อนประเทศดิจิทัล

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน“Gov Cloud 2020” The Future of Digital Government ซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) สํานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT โดยมี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมผู้บริหารกระทรวงฯและหน่วยงานภายใต้กำกับ ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Gov Cloud : Digital Foundation for Government Transformation” ว่า ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมไปสู่ประเทศดิจิทัล และใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ในการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น สถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ และจะนำไปแก้ปัญหาอื่นๆได้ในอนาคต ยืนยันรัฐบาลจะเดินหน้ายุค smart government ทำให้ภาครัฐมีบทบาทสำคัญและพัฒนาไปสู่ยุค 4.0 และยุคนิวนอร์มอล เป็นการตอบสนองและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ภาคธุรกิจ รวมถึงการบริหารประเทศ เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะระบบราชการที่ต้องมีคลังข้อมูลและใช้ข้อมูลเดียวกัน ซึ่งในปี 65-66 หวังว่าฐานข้อมูล Gov Cloud จะเป็นแพลตฟอร์ม ที่ช่วยเรื่องของการบริหารจัดการ ทั้งการเป็นฐานข้อมูลให้ทางราชการทำงานได้อย่างเป็นระบบ ที่สำคัญคือการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาชน นำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงรองรับการใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ และแพลตฟอร์มนี้จะเป็นข้อมูลที่ดี ต่อยอดการบริการภาครัฐ และที่สำคัญคือต้องพัฒนาคนควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง โดยนายกรัฐมนตรี กำชับให้คณะรัฐมนตรีหาแนวทางการแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย พร้อมย้ำว่าการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หัวใจสำคัญคือประชาชนต้องเข้าถึง และได้ประโยชน์สูงสุด

ขณะเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการ และมีบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) เป็นผู้ให้บริการคลาวด์กลางภาครัฐ ได้เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา ซึ่งระบบคลาวด์กลาง หรือ Gov Cloud จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านไอทีให้กับรัฐบาลเพื่อก้าวสู่การทำงานแบบรัฐบาลดิจิทัลตามแผน

ในปีแรก (พ.ศ. 2563) ได้ตั้งเป้าหมายการใช้งานระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) อยู่ที่ 8,000 VM ปัจจุบันมีการเข้าใช้งานระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC แล้วประมาณ 21,000 VM ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีแรกถึง 2-3 เท่าตัว สำหรับหน่วยงานที่ใช้บริการเก็บข้อมูลบนระบบ G-Cloud ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) อยู่เดิมนั้น ขณะนี้เราได้ทำการโอนย้ายจาก G-Cloud มายังระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เสร็จสิ้นแล้ว 70% โดยจะโอนย้ายเสร็จสิ้นครบ100%ในต้นเดือนมกราคม 2564 การพัฒนาบุคลากรภาครัฐ

นอกจากนี้ ภายในโครงการมีกิจกรรมการฝึกอบรมบุคลากรภาครัฐ จำนวน ๒,๕๐๐ คน ให้มีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้งานระบบคลาวด์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยสร้างสมรรถนะด้าน Cloud และ Digital Skill ให้บุคลากรภาครัฐทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ Essential ระดับ Advanced และระดับ Expert

Roadmap การพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ในระยะเวลา 4 ปี

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้กำหนด Roadmap การพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ในระยะเวลา 4 ปี ดังนี้

ปี2563 มุ่งสู่การบริหารจัดการCloud Infrastructure ที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล โดยข้อมูลสำคัญต้องอยู่ภายในประเทศ อีกทั้ง จะนำร่องการแบ่งปัน 15 ชุดข้อมูล (Pilot 15 Datasets) และใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในระบบของภาครัฐ

ปี 2564 มุ่งสู่การเป็น Platform ที่ทุกหน่วยงานสามารถเชื่อมต่อกันได้ โดยจะมีการขยายการใช้งานในหน่วยงานภาครัฐ และมีการขยายผลการใช้ AI ในด้านเกษตรกรรม และด้านอื่น ๆ

ปี 2565 มุ่งสู่การนำร่องระบบ Data Sharing มีการแบ่งปันข้อมูลข้ามหน่วยงาน ด้วยการสร้าง Platform เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้ง ขยายผลนำไปสู่การใช้ AI และ IoT ในวงกว้าง

และภายในปี 2566 มุ่งสู่การขับเคลื่อนนโยบายการให้บริการข้อมูลภาครัฐแบบเปิดในรูปแบบGovernment as a Platform ที่มีการบูรณาการข้อมูลร่วมกันด้วย Platform เดียวกัน มุ่งไปสู่การให้บริการภาครัฐแบบเปิดอย่างแท้จริง

ดังนั้น GDCC จึงเป็นโครงการสำคัญที่จะสนับสนุนการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยพัฒนาและให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์กลางภาครัฐ
พัฒนาบุคลากรผลักดันและสนับสนุนการบูรณาการและเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเป็นการส่งเสริมนโยบายการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)อันจะ นำไปสู่การทำให้รัฐบาลเป็น Government as a Platform ผ่านการทำ Government Cloud หรือการบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลเปิดภาครัฐข้ามหน่วยงานอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป

สำหรับหน่วยงานที่ใช้ระบบคลาวด์ GDCC ในการพัฒนาระบบงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนได้เข้ารับมอบโล่เกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรีในงาน Gov Cloud 2020 ได้แก่
1. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พัฒนาระบบ EEC-OSS โดยเป็นช่องทางคัดกรองและอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน สามารถเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยบริการแบบ One-Stop Service

2. กรมการขนส่งทางบก ผลงาน ‘Smart Bus Terminal’ ระบบติดตามรถโดยสารประจำทาง แสดงตารางการเดินรถแบบเรียลไทม์ของสถานีขนส่ง 81 แห่งทั่วประเทศ ผ่าน GPS Tracking ที่ติดตั้งบนรถโดยสารประจำทางทุกคัน สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางได้ตลอดเวลา

3. ตำรวจภูธรภาค 8 พัฒนาระบบโครงการภาค ๘ “4.0” ในแอปพลิเคชัน POLICE 4 ด้วย 4 ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น คือ Crime Mapping แผนที่อาชญากรรมหลายมิติ, CCTV Mapping แผนที่กล้องวงจรปิดทุกตัว, Red Box QR Code ใช้แทนสมุดตรวจแบบเดิม และ Stop Walk Talk and Report ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่แบบเรียลไทม์

4. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบ Digital Healthcare Platform เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลสาธารณสุขซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกระบบที่เกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด-19 มาไว้ส่วนกลาง ทำให้สามารถจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และ 5. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ หรือ NEIC (National Energy Information Center) ซึ่งเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง บูรณาการและเผยแพร่ข้อมูลด้านพลังงานให้กับทุกภาคส่วน เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ คาดการณ์ด้านพลังงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

………………………………………………………..